Ginseng Extract (สารสกัดโสม) เป็นสมุนไพรที่ถูกวิจัยในทางการแพทย์แล้วพบว่า โสมมีสรรพคุณในการป้องกันและบำบัดรักษาโรคต่างๆได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อผู้ใช้แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นรากของโสมหรือโสมที่สกัดมาแล้วไม่พบว่ามีอันตรายแต่อย่างใดแม้แต่การทำให้เกิดการเสพติดเหมือนยาแผนปัจจุบันก็ไม่มีรายงานในโสม
ดังนั้นโสมจึงได้รับความนิยมและความเชื่อถือมาเป็นเวลานานจนทุกวันนี้มีการนำโสมมาเพิ่มเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆเช่น กาแฟโสม ที่มีสรรคุณทั้งในด้านลดน้ำหนักและในเรื่องความสวยความงาม โสมได้ชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดีและเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนเกาหลี จีนและญี่ปุ่นจนมีคำกล่าวว่า โสมเป็นยาอมตะหรือยาที่มหัศจรรย์ ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านาน
นอกจากนี้โสมยังเป็นสมุนไพรที่ได้รับการกล่าวขานถึงสรรพคุณในการบำรุงกำลัง ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยและลดความเครียดได้ หากใครทำงานหนักและเครียดให้กินโสมจะช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงและคลายเครียด โสมยังเป็นยาบำรุงให้เกิดผลดีต่อสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย การใช้โสมให้ได้ผลดีต้องรู้วิธีใช้อย่างถูกต้องโดยหลังจากกินโสมแล้วประมาณ 3 ชั่วโมงไม่ควรกินอาหารอย่างอื่นตามและอย่าใช้โสมร่วมกับสารต่างๆที่มีภาวะความเป็นกรดเช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว ฯลฯ เพราะสรรพคุณของโสมจะถูกทำลายโดยความเป็นกรดได้
โสมแบ่งออกเป็น 3 ชนิดด้วยกัน โดยแบ่งตามอายุของการนำมาสกัดเป็นสารบำรุงสุขภาพ
ปัจจุบันโสมมีการเพาะปลูกอยู่หลากหลายสายพันธ์ แต่พันธ์ที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์กันจะมีอยู่ 2 สายพันธ์คือ โสมอเมริกา (Panax quinquefolius) และโสมเอเชีย (Panax ginseng) ซึ่ง ข้อแตกต่างระหว่างโสมทั้ง 2 สายพันธ์อยู่สารออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน (Active Compounds) ทำให้โสมทั้ง 2 ชนิดมีคุณสมบัติบำรุงร่างกายไม่เหมือนกัน โดยโสมสายพันธ์อเมริกา จะช่วยในเรื่องของการบำบัดร่างกายให้ผ่อนคลาย ช่วยเสริมการพักผ่อน ขณะที่โสมสายพันธ์เอเชียจะช่วยเรื่องการบำรุงร่างกายให้มีพลัง มีแรงในร่างกาย
ʕ·ᴥ·ʔ ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ ขาดกำลังวังชา
ʕ·ᴥ·ʔ ผู้ที่ขาดความกระปรี้กระเปร่า
ʕ·ᴥ·ʔ ผู้ที่ขาดสมรรถภาพทางร่างกาย
ʕ·ᴥ·ʔ ผู้ที่ขาดสมรรถภาพทางจิตใจ
ʕ·ᴥ·ʔ ผู้ที่มีความลำบากในการควบคุมสมาธิ
ʕ·ᴥ·ʔ ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นสาเหตุของความเครียด
เพื่อให้ได้ผลสูงสุดเวลากินโสมจะต้องเลี่ยงอาหารบางอย่างได้แก่ ผลไม้ที่มีกรดสูงๆ น้ำผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรดเช่น น้ำส้มคั้น น้ำมะนาว และห้ามกินวิตามินซี ร่วมกับโสมเพราะจะไปทำลายฤทธิ์ที่ควรจะได้จากโสม
1. สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ (Potent Antioxidant) ช่วยลดอาการบวม อักเสบ
โสมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากมายที่ช่วยลดอาการอักเสบและบวมแพ้ให้ลดน้อยลงได้ งานวิจัยจาก PubMed Central พบว่า สารสกัดจากโสม อุดมไปด้วย จินเซนโนไซต์ (Ginsenosides) ที่ช่วยลดอาการอักเสบและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ได้ จากการทดลอง โสมแดงสายพันธ์ของเกาหลี แล้วพบว่า สารสกัดจากโสมช่วยลดอาการบวมแดงและอาการผิวแพ้ มีผื่นให้ลดน้อยลงได้
2. สารสกัดจากโสมช่วยบำรุงสมองได้
สารสกัดจากโสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ความจำและอารมณ์ได้ งานวิจัยจาก PubMed Central พบว่า สารสกัดจากโสมอุดมไปด้วย จินเซนโนไซต์ (Ginsenosides) และวิตามินเค (Vitamin K) ที่ช่วยป้องกันความเสื่อมของสมอง จากการทำงานของสารอนุมูลอิสระ (Free Radical) งานศึกษาชิ้นนี้ ได้ทดลองโดยคัดเลือกคนที่สุขภาพดีกว่า 30 คน ให้มารับประทาน Panax ginseng เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ หลังจากการทดลองครั้งนี้ พบว่า ผู้ทดลองมีสุขภาพทางอารมณ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งยังพบว่า การรับประทาน Panax ginseng ในปริมาณ 200 หรือ 400 มิลลิกรัมต่อวัน ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง สุขภาพจิตที่ดีขึ้น และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
3. สารสกัดจากโสมช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction)
สารสกัดจากโสมช่วย กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดที่บริเวณอวัยวะเพศ จึงช่วยทำให้หลอดเลือดส่วนนั้นขยายตัว เนื่องจากงานวิจัยจาก PubMed Central พบว่า สารสกัดจากโสมช่วยเสริมสร้างการผลิตไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ช่วยรักษาสมดุล ซ่อมแซม และป้องกันดูแล ทุกๆเซลล์ของระบบภายในร่างกาย นอกจากนี้ ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ช่วยเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อเรียบของผนังหลอดเลือดผ่อนคลาย ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
4. สารสกัดจากโสมช่วยเสริมสารระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
สารสกัดจากโสม ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรงได้ด้วย ซึ่งเหมาะกับช่วงที่ร่างกายต้องการเพื่อต่อต้านกับเชื้อโรคได้ งานศึกษาจาก Koreamed พบว่า กลุ่มผู้ทดลองจำนวน 39 คน ที่รับประทานสารสกัดจากโสมทุกวัน ในปริมาณ 5,400 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 2 ปี ทำให้อาการอักเสบจากผ่าตัดมะเร็งในท้องฟื้นตัวไวยิ่งขึ้น ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มในร่างกาย นอกจากนี้ ยังพบว่า การรับประทานสกัดจาโสมเป็นประจำ ยังช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพของวัคซีนโรคหวัดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
✿ ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ : สาร Ginsennoside สามารถระงับการอักเสบที่เกิดขึ้นในระดับเซลล์ อีกทั้งยังช่วยให้เอนไซม์ที่มีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระทำงานได้ดีขึ้น ลดการทำลายเซลล์จากอนุมูลอิสระ ช่วยให้เซลล์ฟื้นฟูความสมบูรณ์ได้ดีขึ้น
✿ ลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า : ด้วยคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ ทำให้เซลล์มีความสมบูรณ์มากขึ้น อัตราการผลิตพลังงานและฟื้นฟูจากความเสียหายได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นและลดความเหนื่อยล้าลงได้
✿ เพิ่มภูมิคุ้มกัน : โดยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านโรคภัย
✿ บำรุงสมอง : จากการช่วยฟื้นฟูเซลล์สมองจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์สมองทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มพูนความจำและกระบวนการคิดวิเคราะห์