ผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคือง เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ แต่อาการคันเป็นประจำ มักมาจากผิวแห้ง และผิวอ่อนแอขาดการป้องกันจากสิ่งกระตุ้นภายนอก ซึ่งมักมาจากการอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นประจำ และมักเกิดกับผิวที่เสื่อมสภาพตามอายุ ทำให้กักเก็บน้ำได้น้อยจนเกิดอาการแห้งคันเรื้อรัง อาการแห้งคัน น่ารำคาญและทำลายบุคลิกภาพในวัยรุ่นและวัยทำงาน และกระทบกับคุณภาพชีวิต เช่น อาการคันรบกวนการนอน หรือทำให้เสียสมาธิในการทำงานเพราะอาการคัน รวมถึงความเสียหายของผิวหนังจากการเกา
ปัญหาผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่พบได้มากในทารก เด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ที่มีผิวแพ้ง่าย มักมีจุดเริ่มต้นจากอาการผิวแห้งคัน ผิวแห้งเป็นจุดๆในบางบริเวณ เป็นผื่นแดง ผื่นขึ้นหน้า หรือแสบผิวตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณข้อพับของร่างกาย การเกิดผิวแห้ง แดง คัน นั้นมีสาเหตุและปัจจัยที่กระตุ้นให้แสดงอาการได้หลายอย่าง ทั้งยังสัมพันธ์กับอาการแพ้อื่นๆ และอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อดูแลผิวที่มีอาการผื่นภูมิแพ้ได้อย่างถูกวิธี เรามาเริ่มต้นทำความรู้จักอาการผิวแห้งเป็นจุดๆ หรือผื่นภูมิแพ้ผิวหนังไปพร้อมๆ กัน
ผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคืองอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หรือมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่มากระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองขึ้น ซึ่งความรุนแรงของอาการแพ้จะขึ้นอยู่กับสภาพเกราะป้องกันผิวของแต่ละบุคคล เราสามารถหลีกเลี่ยงสาเหตุที่อาจจะก่อให้เกิดอาการได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัย ดังนี้
❀ พันธุกรรม โอกาสที่ลูกจะเป็นด้วยมีมากถึง 60-80%
❀ แม่ที่ตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก มีโอกาสที่ลูกจะมีปัญหาผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคืองได้สูง
❀ ผิวแห้งเป็นจุดๆ ในบางบริเวณ มีโอกาสเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
❀ ผิวขาดสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (NMFs)
❀ ชั้นปกป้องผิวอ่อนแอ เนื่องจากการขาดไขมันที่จำเป็นในผิว เช่น Ceramide และ free fatty acid ทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายเข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น
❀ มลภาวะและการเปลี่ยนแปลงของอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอากาศเย็นจะทำให้ผื่นกำเริบ ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการอักเสบและผิวแห้งคันตามมา เมื่อคันและเกาจะยิ่งทำให้ชั้นปกป้องผิวอ่อนแอมากขึ้น เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายเข้าสู่ผิวได้มากขึ้น ยิ่งเกิดการอักเสบที่รุนแรงและคันมากขึ้น วงจรนี้เรียกว่า วงจรผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือวงจรผิวแห้งเป็นจุดๆ ร่วมถึงมีอาการผิวแดง คัน ระคายเคืองร่วมด้วย
❀ อาหารและเครื่องดื่มบางชนิด เช่น นมวัว ถั่ว แอลกอฮอล์
❀ สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้
❀ สารเคมี สารที่ก่อความระคายเคือง
❀ การพักผ่อนไม่เพียงพอ
❀ เหงื่อ
ช่วงที่เกิดอาการผิวแห้งเป็นจุดๆในบางบริเวณ สิ่งที่ควรทำคือ หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นต่างๆ โดยควรเลือกแนวทางการดูแลผิว และวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของอาการแพ้และสภาพผิวของแต่ละบุคคล เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอาการคัน การอักเสบของผิวให้เร็วที่สุด ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แนวทางการดูแล ดังนี้
❀ การรักษาด้วยยา : การใช้ยาทาผิวในกลุ่มสเตียรอยด์ จะช่วยลดอาการอักเสบและคันได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ที่ดี แต่เนื่องจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จึงแนะนำให้ใช้ในช่วงสั้นๆ และในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น เพื่อลดการเกิดผลเสียในระยะยาว และควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
❀ การใช้ครีมบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้น : การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทั้งในช่วงระยะผื่นกำเริบและผื่นสงบ เป็นการดูแลขั้นพื้นฐานที่สำคัญมาก เพื่อช่วยให้ชั้นปกป้องผิวที่อ่อนแอแข็งแรงขึ้น ลดการกลับมาเป็นซ้ำของผื่นครีมบำรุงผิวที่ใช้จึงควรมีสารสำคัญที่สามารถช่วยลดอาการผิวแห้งเป็นจุดๆ ผิวหนังอักเสบ ผิวแห้งคัน เป็นผื่นได้ คือ การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหรือยาทาที่เหมาะสมกับสภาพผิว นอกจากช่วยหยุดอาการคันและการอักเสบของผิวแล้วควรมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูให้เกราะป้องกันผิวกลับมาแข็งแรงได้อีกด้วย
ผิวของเราจะดูดีที่สุดเมื่อระดับความชื้นและซีบัมได้สมดุล ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อคุณมีการดูแลพื้นฐานที่เหมาะสม เช่น การใช้โทนเนอร์ที่ความชุ่มชื่นและโลชั่นเพื่อเสริมชั้นป้องกันของผิว สถานการณ์ปัจจุบันที่ทำให้เราต้องสวมหน้ากากเวลาพบเจอผู้คนภายนอก ทำให้เราควรเติมมิลค์โลชั่นหรือครีมเพื่อเสริมการป้องกันก่อนที่จะสวมหน้ากาก เมมเบรนชั้นความชื้นดังกล่าวจะช่วยปกป้องผิวจากรอยขีดข่วนและการขัดถูที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากการใส่หน้ากาก หากคุณรู้สึกอึดอัดขณะสวมหน้ากากหลังทางโลชั่นหรือครีม ลองเปลี่ยนมาใช้โลชั่นหรือครีมสูตรน้ำแทน
ขณะล้างหน้า ผลิตภัณฑ์เคลนซิ่งไม่ว่าจะเป็นโฟม เจล หรือ ครีม จะต้องนวดจนฟูตัวขึ้นเป็นชั้นป้องกันระหว่างใบหน้าของคุณและมือ Select a face wash suitable for your skin type—be it dry or oily. ค่อย ๆ ใช้ผ้าซับเบา ๆ แทนการเช็ดหน้า ใช้แผ่นสำลีเพื่อลงโทนเนอร์หรือโลชั่น และทาอย่างเบามือโดยวนเป็นวงกลม
คุณอาจเคยได้ยินบางคนบอกว่าผลิตภัณฑ์กันแดดจะทำให้ผิวหยาบกระด้าง ซึ่งขอบอกเลยว่า! ผลิตภัณฑ์ปกป้องแสงแดดโดยปกติทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันเพื่อลดการทำลายผิวเนื่องจากรังสี UV รังสี UV คือสิ่งที่ทำให้ผิวแห้งและหยาบกร้าน ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่รังสี UV รุนแรงกว่าปกติ สภาพผิวจึงได้รับผลกระทบเป็นพิเศษ เราขอแนะนำให้เน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวในทุก ๆ วัน ไม่เฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน แต่ตลอดทั้งปี จำไว้เสมอว่าขณะเลือกผลิตภัณฑ์กันแดด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่สามารถให้ความชุ่มชื้นเพื่อเสริมการปกป้องผิวหนังจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย
แม้ว่าการนอนหลับ 7 ชั่วโมงต่อคืนจะเป็นเวลาที่เหมาะสม แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะสามารถเลือกได้ ทางเลือกจึงเป็นการเน้นการนอนหลับที่มีคุณภาพ แนวทางบางส่วนที่ช่วยให้การนอนหลับของคุณมีคุณภาพมากขึ้น:
● การอาบน้ำอุ่นเพื่อให้ความผ่อนคลาย
● หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนนอน
● สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพักผ่อน
อาหารที่สมส่วน โดยให้มีทั้งผักและผลไม้ เพื่อให้คุณได้รับวิตามินและแร่ธาตุและช่วยในการสร้างเซลล์ผิวกลับขึ้นมาใหม่ อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ปลา เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองล้วนมีส่วนช่วยให้ผิวมีสุขภาพแข็งแรง
การนอนหลับให้มีคุณภาพและเพียงพอ พร้อมกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์คือวิถีชีวิตที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่การดูแลตนเองและสวัสดิภาพของคุณควรจะเป็นสิ่งที่คุณให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ดูแลตัวคุณเองด้วยด้วยการนวสปาเป็นครั้งคราว หรือดูแลผิวหน้าด้วยมาสก์ทุกสัปดาห์เพื่อเติมความชุ่มชื้นที่สูญเสียไปและฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้าให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง
จัดการปัญหาผิวแห้งในฤดูร้อนด้วยเคลนซิ่งโทนเนอร์ ใช้แผ่นสำลีชุบโทนเนอร์ แล้วค่อย ๆ เช็ดไปตามใบหน้าเพื่อเช็ดชั้นไขมันส่วนเกินออก วิธีนี้นอกจากจะช่วยในการทำให้ผิวรู้สึกเย็นสบาย แต่ยังช่วยลดความแห้งของผิวด้วย ในช่วงฤดูหนาว ใช้โลชั่นหรือครีมที่มีเนื้อหนักมากขึ้น เพราะการทาครีมมากขึ้น จะช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า และช่วยปกป้องผิวจากอากาศที่แห้งกร้าน การไม่รักษาผิวที่แห้งอย่างมีประสิทธิภาพ จะส่งผลให้ผิวหยาบกร้านและแก่ก่อนวัย ให้ความสำคัญในการเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างเหมาะสมและเพียงพอเพื่อเผยผิวที่แข็งแรงและชุ่มชื้นได้ตลอดทั้งวัน