ผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบ การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบ ต่อภาวะโภชนาการได้ทั้งปัญหาการขาดสารอาหาร และ ภาวะโภชนาการเกิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรังได้ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะชะลอหรือป้องกันได้จากการดูแลเอาใจใส่ ให้คำแนะนำเรื่องการบริโภคอาหาร โดย ผู้สูงอายุมี ความต้องการอาหารเช่นเดียวกับวัยอื่น ๆ การรับประทาน อาหารต้องครบ 5 หมู่ทุกวัน แต่แตกต่างกันในด้านปริมาณ อาหารที่ลดลง และลักษณะของอาหาร การเลือกบริโภค อาหารให้เหมาะสมกับวัย ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ ร่วมกับการพักผ่อนที่เพียงพอ และการออกกายกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค อีกทั้งยังสามารถป้องกันการเกิดโรค เรื้อรังต่าง ๆ ได้
ดังนั้นอาหารทางการแพทย์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุ เป็นอาหารสำหรับใช้เป็นโภชนาการบำบัดสำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรคหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ ซึ่งในผู้ป่วยที่ร่างกายขาดพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นจากโรคหรือภาวะต่างๆ สิ่งหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารและความต้องการอย่างเหมาะสมนั่นก็คืออาหารทางการแพทย์ ในปัจจุบันอาหารทางการแพทย์มีให้เลือกหลากหลายชนิดและมีหลากหลายสูตรเพื่อให้เลือกให้เหมาะสมกับโรคของผู้ป่วย ที่ผลิตโดยโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร มีสัดส่วนที่เป็นมาตรฐานตายตัว ให้คุณค่าและ สารอาหารที่แตกต่างกันออกไปโดยมีรายละเอียดของสารอาหารระบุไว้ที่ภาชนะบรรจุ ปัจจุบันมีทั้งเป็นผงและของเหลว เช่น ISOCAL, MA-BEEDEE, ENSURE,GEN DM, Pan enteral, BOOT OPTMUM, BLENDERA-MF เป็นต้น ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมุ่งเน้นให้ตรงกับความต้องการของร่างกายโดยเฉพาะ อาจจะอยู่ในรูปที่ใช้รับประทานหรือดื่มแทนอาหารหลักหรือในบางกรณีอาจดื่มเพื่อเป็นการเสริมอาหารบางมื้อและสำหรับใช้เป็นอาหารทางสายยางแก่ผู้ป่วยได้ สามารถใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้หรือผู้สูงอายุ ซึ่งร่างกายมีความจำเป็นที่ต้องได้รับสารอาหารเป็นประจำอยู่แล้ว หากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารอาจจะทำให้อาการป่วยแย่ลงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ เพราะฉะนั้นอาหารทางการแพทย์สามารถนำมาชง ทำให้เป็นของเหลวเพื่อให้ไหลผ่านเข้าทางสายยางให้อาหารได้หรือชงดื่มก็ได้ ดังนั้นเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อาหารทางการแพทย์ยังสามารถใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับผู้ที่รับประทานหารเองได้แต่ได้รับปริมาณและพลังงานของสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเช่น ผู้สูงอายุที่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร เช่น ภาวะเบื่ออาหาร รวมไปถึงปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะเบื่ออาหาร หรือมีปัญหาในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหารทำให้การรับประทานอาหารนั้นลดประสิทธิภาพลง รวมไปถึงผู้ป่วยหลังผ่าตัดที่สามารถรับประทานอาหารได้น้อย โดยแพทย์จะทำการพิจารณาให้ใช้อาหารทางการแพทย์เป็นอาหารเสริม สำหรับสร้างพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายทำให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากใช้อาหารทางการแพทย์หรือหาซื้ออาหารทางการแพทย์มารับประทานเอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาหารทางการแพทย์ส่วนใหญ่มีใยอาหารที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะฉะนั้นควรที่จะเลือกชนิด เลือกสูตร ให้ถูกต้องเพราะร่างกายของเรามีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งอาหารทางการแพทย์แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรได้รับคำแนะนำก่อนการซื้ออาหารทางการแพทย์มาใช้เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุลได้ อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกายเพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ รวมไปถึงควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่