ไตทำหน้าที่กรองของเสียและขับปัสสาวะ เพื่อกำจัดน้ำ เกลือแร่ และสารเคมีที่ร่างกายไม่ต้องการผ่านทางท่อไตไปสู่กระเพาะปัสสาวะ นอกเหนือจากหน้าที่กำจัดของเสียแล้ว ไตยังมีหน้าที่ปรับสมดุลของน้ำและสารเคมี สร้างฮอร์โมนที่ช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง และควบคุมความดันโลหิต เมื่อเกิดภาวะไตวายจะทำให้ของเสียคั่งในร่างกายเกิดภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่และน้ำในร่างกาย จนร่างกายไม่สามารถทนได้ ต้องบำบัดทดแทนไตด้วยการฟอกเลือด หรือล้างไตทางช่องท้อง เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของไต ผู้ป่วยควรพบแพทย์และใช้หลักการของอาหารบำบัดที่เหมาะสม
การล้างไตทางช่องท้อง
เป็นวิธีที่อาศัยเยื่อบุช่องท้องช่วยกรองของเสียออกจากร่างกาย โดยการใส่น้ำยาเข้าในช่องท้องทางสายพลาสติก ที่แพทย์ได้ทำผ่าตัดฝังไว้ในช่องท้อง ทิ้งน้ำยาไว้ในช่องท้องประมาณ 4-6 ชั่วโมง จากนั้นก็ปล่อยน้ำยาออกจากช่องท้องทิ้งไป โดยทั่วไปจะทำการเปลี่ยนน้ำยาวันละ 4 ครั้ง แต่การล้างไตด้วยวิธีนี้ทำให้มีการสูญเสียโปรตีนจำนวนมากออกมาทางน้ำยาในแต่ละวัน และได้รับน้ำตาลที่สูงกว่าปกติ (จากน้ำยาล้างท้องที่มีน้ำตาลสูง โดยอาจจะมีกลูโคสถูกดูดซึมเข้าไปได้ถึง 500 กรัม/วัน ) จะทำให้มีการผลิตไตรกลีเซอไรด์จากตับมากขึ้น ทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน เกิดไขมันในเลือดสูงได้ ดังนั้นผู้ป่วยอาจเกิดภาวะขาดอาหารได้ถ้ากินอาหารไม่เพียงพอ และเนื่องจากผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) เพื่อลดการคั่งของน้ำและของเสีย ในระหว่างการฟอกเลือดจะทำให้สูญเสียโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายโดยเฉพาะโปรตีน ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตอย่างถูกวิธี เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่อาจเกิดขึ้น
การล้างไต จะช่วยปรับสารน้ำ และอิเล็กโตรไลท์เกลือแร่ให้ปกติได้และอาการ uremic จะดีขึ้น แต่รอยโรคเดิมยังรุนแรงอยู่นั่น คือแผลยังหายช้า , ติดเชื้อแรงอยู่ และเป็นสาเหตุการตายได้ การให้อาหารจะช่วยปรับสภาพโภชนาการให้รอระยะเวลาจนภาวะไตวายเฉียบพลันดีขึ้น การล้างไตจะขับของเสียออกและช่วยให้การให้อาหารได้สมบูรณ์ล้างไตอาจทำโดย ฟอกเลือด ใช้น้ำล้างทาง ช่องท้อง (ล้างไต) หรือล้างตลอดเวลาโดยวิธี CRRT (continuous renal replacement therapy) หรือ CVVHD (continuous venovenous hemodiafiltration) CRRT ทำตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน คนไข้ที่ไม่สามารถฟอกเลือดได้ ใช้ในผู้ป่วยหนัก
ผู้ป่วยที่ล้างไต มักจะต้องได้รับโภชนาการที่ดีและมีความเหมาะสม กับช่วงระยะของอาการที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ ซึ่งการรับประทานโภชนาการที่ดีและมีความเหมาะสมนั้น จะช่วยทำให้ลดอัตราการเจ็บป่วย ตลอดจนกระทั่งลดอาการแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาหารสำหรับผู้ป่วยจะถูกจำกัดสารอาหารต่างๆตามระยะของโรค
อาหารทางการแพทย์ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยล้างไต จะต้องจำกัดอิเล็กโทรไลต์และควบคุมสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
• อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตจากการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม สามารถทำได้ในช่วงเวลา 8 – 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สามารถกำจัดของเสียได้เพียง 6 – 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
• อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตจากการล้างไตทางด้านหน้าท้อง ผู้ป่วยสามารถทำได้เองที่บ้าน สามารถทำได้ทุกวัน วิธีนี้จะสามารถกำจัดของเสียได้ 10 – 20 เปอร์เซ็นต์ของไตปกติ