มะพร้าวเป็นไม้ยืนต้นที่อยู่คู่คนไทยมานาน และถือเป็นพืชที่นำมาใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวในด้านสุขภาพและความงามกัน ปัจจุบันนี้ “น้ำมันมะพร้าว”ถูกนำมาใช้ด้านความสวยความงามกันอย่างแพร่หลาย น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันที่ได้จากไขมันในเนื้อสีขาวของลูกมะพร้าว โดยอาจผลิตด้วยกระบวนการที่แตกต่างหลากหลาย บางผลิตภัณฑ์ใช้คำว่าน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin Coconut Oil) ซึ่งหมายถึงน้ำมันมะพร้าวที่สกัดโดยใช้กระบวนการธรรมชาติ เช่น ปราศจากสารฟอกสี การระงับกลิ่น หรือการกลั่น และบางครั้งระบุว่าใช้กระบวนการสกัดเย็น อันเป็นวิธีใช้เครื่องสกัดที่จะทำให้เกิดความร้อนตามธรรมชาติไม่เกิน 49 องศาเซลเซียสมากที่สุด
น้ำมันมะพร้าวประกอบด้วยไขมันอิ่มตัวที่เป็นไตรกลีเซอไรด์สายยาวปานกลาง ซึ่งเชื่อว่าอาจมีประโยชน์ต่อร่างกาย เโดยไม่ผ่านแหล่งความร้อนจากภายนอก เพราะเชื่อว่าจะช่วยคงประโยชน์ทางสุขภาพของน้ำมันมะพร้าวไว้ได้มพราะอาจมีการทำงานต่างจากไขมันอิ่มตัวชนิดอื่น ๆ ที่มีสายยาวกว่า เช่น อาหารจำพวกน้ำมันพืช ไขมันจากนมและเนื้อสัตว์ทั้งหลาย จึงมักถูกนำมาใช้ประโยชน์ในฐานะการรักษาทางเลือกสำหรับโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน หัวใจ หรืออัลไซเมอร์ และถึงแม้จะประกอบด้วยแคลอรี่และไขมันอิ่มตัวสูง ก็ยังมีความเชื่อว่าการรับประทานน้ำมันมะพร้าวอาจช่วยลดน้ำหนักและระดับคอเลสเตอรอลในเลือด รวมทั้งการใช้ทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว รักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน ตลอดจนสรรพคุณบำรุงสุขภาพเส้นผมและสุขภาพช่องปาก
โรคที่ส่งผลให้ผิวหนังคัน แดง แห้ง ตกสะเก็ด และเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่ผิวหนังตามมา ซึ่งผู้ป่วยมักต้องใช้มอยซ์เจอไรเซอร์คอยบำรุงผิวหนัง น้ำมันมะพร้าวเป็นตัวเลือกหนึ่งที่นิยมนำมาใช้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองของผิว และยังอาจช่วยลดจำนวนแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัสบนผิวหนัง หนึ่งในตัวการที่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังตามมา
สำหรับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันคุณสมบัตินี้ มีการทดสอบโดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์และน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ต่อการเพิ่มความชุ่มชื้นและลดแบคทีเรียบนผิวหนังของผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผลพบว่าการทาน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกวันละ 2 ครั้ง บริเวณผื่นที่ไม่ติดเชื้อ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่แผลลดน้อยลง แต่น้ำมันมะพร้าวนั้นจะมีประสิทธิภาพมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
น้ำมันมะพร้าวมีสรรพคุณโดดเด่นในการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วยคุณสมบัติเด่นคือ ปกป้องผิวพรรณจากแสงแดด ลม ฝุ่นละออง และอุดมด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงและซ่อมแซมเซลล์ ฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรงกลับมามีชีวิตชีวา เช่น วิตามินอี และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ทั้งเก็บรักษาความชุ่มชื้นในชั้นผิวหนังเอาไว้ ทำให้เซลล์ผิวเต่งตึง ช่วยลดริ้วรอยที่มักเป็นปัญหาที่น่ากังวลใจของผู้ที่มีริ้วรอยก่อนวัย และผู้สูงวัยอย่างได้ผล ในสมัยโบราณนับว่าเป็นเคล็ดลับในการดูแลผิวที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักใช้น้ำมันมะพร้าวทาหน้าเพื่อใช้บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสไม่แห้งกร้าน เพื่อลดรอยเหี่ยวย่น แนะนำว่าหากจะใช้ทาให้ทาเฉพาะตอนกลางคืนหรือช่วงก่อนเข้านอน
นอกจากบำรุงผิวพรรณแล้วยังแก้ปัญหาส้นเท้าแตกด้วยการทาน้ำมันมะพร้าว และนวดคลึงทุกวันก่อนนอนติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อหายแล้วให้ใช้ต่อไปเรื่อย ๆ รอยแตกจะไม่กลับมากวนใจเราอีก
รักษาสิว
น้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก (lauric acid) ช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรีย บนใบหน้าป้องกันปัญหาใหญ่อย่างสิวเรื้อรัง ลดการอักเสบของสิว นอกจากนี้ยังมีวิตามิน E และวิตามิน K ช่วยลดรอยแผลเป็นหลังเกิดสิว น้ำมันมะพร้าวยังเหมาะกับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย สามารถใช้ได้ทุกวัน นอกจากรักษาสิวแล้วยังมีผลการศึกษาอีกมากมายพบว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง เช่น โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน และหากใช้เป็นประจำน้ำมันมะพร้าวยังช่วยสมานแผลต่างๆ ได้ด้วย
บรรเทาผิวหน้าลอกแห้ง
น้ำมันมะพร้าวใช้ทาช่วยแก้อาการผิวแห้ง ผิวแตก ผิวลอก ผิวเป็นขุยได้ สาวๆ หลายคนมีปัญหาผิวหน้าลอก แห้ง ทาแป้งหรือเครื่องสำอางอยู่ไม่ทนและครีมบำรุงผิวไม่ซึมสู่ผิวหนัง สาเหตุเกิดจากผิวหนังผลัดเซลล์ผิวได้ไม่ดี หรือผิวขาดน้ำ น้ำมันมะพร้าว ช่วยได้โดย ทาน้ำมันมะพร้าวทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 10-30 นาที แล้วล้างออก ส่วนคนที่ผิวหน้าแห้งมากอาจใช้น้ำมันมะพร้าวทาแทนครีมบำรุงประเภทมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับกลางคืนได้เลย
บำรุงผิวหน้า
ʕ·ᴥ·ʔ อนุมูลอิสระ เป็นตัวการอันหนึ่งของการเกิดฝ้า และ กระ วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าวจะทำหน้าที่ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ป้องกันรอยหมองคล้ำ ตามปกติผิวหนังจะสูญเสียความชุ่มชื้น เพราะถูกแดดและลม
ʕ·ᴥ·ʔ น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นสารรักษาความชุ่มชื้น รักษาอาการผิวแห้ง แตก ลอก เป็นขุย ลดอาการผื่นแพ้ แสบคันตามผิวหนัง จึงช่วยให้ผิวนวลเนียน อีกทั้งช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด สามารถใช้น้ำมันมะพร้าวทาแก้ผิวไหม้แดด อาการแสบร้อนจะบรรเทาลง
ʕ·ᴥ·ʔ น้ำมันมะพร้าวคือสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ นำสำลีชุบน้ำอุ่นแล้วบีบน้ำออก หยดน้ำมันมะพร้าว 2-3 หยดลงบนสำลีทาให้ทั่วใบหน้า สามารถทิ้งไว้ได้โดยไม่ต้องล้างออก จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มไม่แห้งกร้าน รู้สึกว่าผิวหน้าละเอียดขึ้น หน้าเนียนขึ้น รอยด่างดำจากสิวจางลงมากอย่างไม่น่าเชื่อ
ʕ·ᴥ·ʔ ใช้ทาหน้าบางๆ ก่อนนอนแทนครีมบำรุงผิว แนะนำว่าต้องเป็นน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็น เพราะน้ำมันมะพร้าวที่ผ่านความร้อนจะทำให้วิตามิน E สลายไป ไม่เหมือนการสกัดเย็นที่ยังได้คุณค่าของน้ำมันมะพร้าวครบ
ʕ·ᴥ·ʔ นอกจากจะใช้ทาบำรุงผิวหน้าแล้ว ผิวกายก็ควรใช้ร่วมด้วย เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อย ปวดข้อต่างๆ ใช้เป็นประจำทุกวัน อุดมด้วยวิตามิน E ช่วยปกป้องรังสี UV
สมานผิวป้องกันหน้าท้องแตกลาย
น้ำมันมะพร้าวช่วยเร่งฟื้นฟูผิว โดยเฉพาะคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์ หากใช้ทาก่อนหน้าท้องเริ่มขยาย จะช่วยป้องกันการแตกลายของผิวที่ค่อยๆ ยืดขยายตัวโดยใช้น้ำมันมะพร้าวนวดผิวบริเวณที่กำลังขยายเป็นประจำทุกเช้า-เย็น จะช่วยทำให้ผิวบริเวณนี้มีความชุ่มชื้นไม่แห้งแตกลายได้
เช็ดเครื่องสำอาง สะอาดหมดจด
ใช้น้ำมันมะพร้าวหยดบนสำลีพอประมาณแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า สามารถใช้เช็ดเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา และริมฝีปากหมดเกลี้ยง สำหรับผู้ที่แต่งหน้าสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวเช็ดทำความสะอาดได้ 2 รอบเพื่อความสะอาดอย่างหมดจด เมื่อเช็ดด้วยน้ำมันมะพร้าวทั่วทั้งใบหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที คราบเครื่องสำอางจะหลุดออกหมด ตามด้วยล้างออกด้วยสบู่ หลังจากนั้นซับหน้าให้แห้ง
บำรุงเส้นผม
จากการศึกษาคุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมิเนอรัล และน้ำมันดอกทานตะวันต่อการบำรุงเส้นผม น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันชนิดเดียวที่พบว่ามีคุณประโยชน์ช่วยลดการสูญเสียโปรตีนของเส้นผมได้ดี เมื่อใช้ทาแล้วล้างออกก่อนและหลังการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมจากสารเคมีทั้งหลาย โดยเห็นผลทั้งเมื่อใช้กับผมที่แห้งเสียและผมสุขภาพดี ซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นเช่นนี้ ผู้วิจัยคาดว่าอาจเป็นเพราะกรดลอริก (Lauric Acid) ในน้ำมันมะพร้าวซึ่งเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์นั้นมีความสามารถในการจับตัวกับโปรตีนในเส้นผมสูง เพราะมีน้ำหนักโมเลกุลต่ำและโครงสร้างทางเคมีเป็นสายตรง จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่ภายในเส้นผมได้ดีกว่าน้ำมันอีก 2 ชนิด แต่ผลการวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณบำรุงรักษาเส้นผมของน้ำมันมะพร้าวก็ยังถือว่ามีน้อยเกินกว่าจะยืนยันได้
การรับประทานน้ำมันมะพร้าวหรือนำมาใช้ทาผิวหนังถือว่าค่อนข้างปลอดภัยต่อสุขภาพหากใช้อย่างเหมาะสม แต่เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีไขมันมันสูง ทำให้มีข้อกังวลว่าการบริโภคน้ำมันมะพร้าวมากเกินไปอาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น จึงควรพึงระมัดระวังในการรับประทานเพื่อการรักษาโรคต่าง ๆ ที่อาจใช้ในปริมาณมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในกรณีต่อไปนี้
น้ำมันมะพร้าวซึ่งมีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถแทรกซึมทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดการเกิดสิว ฝ้า และการสะสมของสารเคมีจากเครื่องสำอาง ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกระชับ เต่งตึง ผิวหน้าเนียนใส และช่วยขจัดสิ่งอุดตันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว อย่างได้ผล