เทปติดผิวหนัง, เทปทำแผล, เทปแต่งแผล เป็นเทปกาวที่มีความยืดหยุ่น การระบายอากาศได้ดีและความชื้นได้เร็วเป็นพิเศษ ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบริเวณแผลได้ ผลิตจากฟิล์มโพลีโอเลฟินที่ยืดหยุ่นและซึมซับได้ดี และ เนื้อกาวอะคริลิกชนิดดูดซึมความชื้นได้สูง เทปนี้มีความระคายเคืองต่ำมาก ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย ใช้ยึดผ้าปิดแผล และตกแต่งแผลทั่วไป เนื้อเทปมีรูระบายอากาศ ป้องกันการอับชื้น มีผสมของกาวไฮโปอัลเลอจินิก ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง
เทปปิดแผล ที่เหมาะสมจะช่วยให้การหายของแผลเร็วขึ้น โดยต้องมีคุณลักษณะ ที่ไม่ไปรบกวนกระบวนการหายของแผล ไม่ทำให้ติดแผล หรือทำให้แผลแห้ง ดังนี้
เทปแต่แผลมีหลากหลายชนิด เช่น
ฟิล์มโพลีโอเลฟินส์ที่มีความยืดหยุ่นสูงและซึมซับได้ดี เนื้อกาวอะคริลิกชนิดดูดซึมความชื้นได้สูง อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว ปลอดภัย ใช้งานง่ายการระบายอากาศได้ดีและระบายความชื้นได้เร็วเป็นพิเศษ
คุณสมบัติ
✿ เทปแต่งแผล ชนิดเยื่อกระดาษ
✿ ใช้ยึดผ้าปิดแผล และแต่งแผลทั่วไป
✿ สำหรับบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น ใบหน้า ผิวเด็ก หรือผิวที่บอบบางแพ้ง่าย
✿ กาวไฮโปอัลเลอจินิก ไม่ทำให้ระคายเคืองผิว
เมื่อเกิดแผล ควรล้างทำความสะอาดแผล เพื่อช่วยลดความรุนแรงของบาดแผล และช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
✿ ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ เช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
✿ ล้างแผลให้สะอาดด้วยการเปิดน้ำให้ไหลผ่านบริเวณบาดแผล เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นผง และเชื้อแบคทีเรียและใส่ยาฆ่าเชื้อ
✿ หากแผลสกปรกมาก อาจจำเป็นต้องใช้ผ้าสะอาดถูแผลเบา ๆ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดและมีเลือดออกขณะทำความสะอาดแผลได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการขัดล้างแผลแรงเกินไป เพราะอาจทำให้แผลเปิดและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
✿ ติดผ้าปิดแผล หรือผ้าก๊อซ แล้วใช้เทปยึด และแต่งแผลปิดแผล
✿ ควรระมัดระวังอย่าให้ถูกแผลโดยตรง
ข้อควรระวัง
✿ ความตึงของเทปมากเกินไปอาจทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง
✿ ห้ามใช้ปิดกับแผลโดยตรง
✿ หยุดใช้ทันที เมื่อเกิดผื่นแดงหรือระคายเคืองต่อผิวหนัง
✿ ลากออกอย่างช้าๆตามแนวเส้นผมเพื่อไม่ให้ผิวระคายเคือง
✿ การเก็บรักษา เก็บที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากน้ำความชื้นและแสงแดด
เมื่อเกิดแผล ควรล้างทำความสะอาดแผลและปิดพลาสเตอร์อย่างถูกวิธี เพื่อช่วยลดความรุนแรงของบาดแผล และช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
สมาคมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวประเทศสหรัฐอเมริกา (The American Academy of Family Physicians) ได้ให้คำแนะนำในการใช้พลาสเตอร์ในแต่ละประเภท ดังนี้