ถุงรองรับปัสสาวะ (urine bag) เป็นถุงพลาสติกใส ขนาด 2,000 มล. มีขีดบอกปริมาตรปัสสาวะ มีทางเปิดให้ระบายปัสสาวะออก บางผลิตภัณฑ์มีลิ้นปิด-เปิด หรือมีฝาปิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค ถุงรองรับปัสสาวะจะมีท่อสำหรับต่อกับสายสวนปัสสาวะ และมีสายสำหรับแขวนถุงเพื่อยึดกับเตียงผู้ป่วย
ถุงสำหรับใส่ปัสสาวะของผู้ป่วยที่มีอาการติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ มีทั้งแบบเทบน และแบบเทล่าง มีท่อพร้อมวาล์วเพื่อเปิด-ปิด เพิ่มความสะดวกในการเทปัสสาวะทิ้ง มีสเกลบอกปริมาตรด้านนอก ทำให้ง่ายต่อการอ่านระดับปัสสาวะและตรวจเช็ค ผลิตจากพลาสติกทางการแพทย์ มีขนาด 2000 ml. ความยาวสาย 125 cm.
ถุงปัสสาวะถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งก็มีให้เราเลือกใช้งานอยู่หลายแบบหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นถุงปัสสาวะแบบเทบนหรือถุงปัสสาวะแบบเทล่าง ทำให้สะดวกต่อการทำความสะอาดเป็นอย่างมาก
ถือเป็นถุงปัสสาวะหน้าท้องที่มีวิธีการใช้งานที่ค่อนข้างง่ายมาก ๆ เพียงแค่นำถุงปัสสาวะมาติดที่บริเวณหน้าท้องก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เป็นถุงปัสสาวะที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านหรือออกไปนอกบ้าน ซึ่งตัวถุงปัสสาวะก็จะมีแถบยางยืดเอาไว้มัดกับต้นขาของเรา ทำให้คนอื่นไม่สามารถมองเห็นได้
เป็นถุงปัสสาวะที่เหมาะสำหรับการใช้งานในผู้ป่วยติดเตียง ทำให้ไม่ต้องทำความสะอาดที่นอนบ่อยมากนัก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ดูแลอีกด้วย
สำหรับถุงปัสสาวะพกพา ถือเป็นสิ่งที่เหล่าคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนต้องมีติดรถไว้บ้างอย่างแน่นอน เมื่อลูกน้อยเกิดปวดฉี่สิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีที่สุดในตอนนั้นก็คงต้องเป็นการนำถุงปัสสาวะพกพาออกมาให้เด็กทำธุระส่วนตัว ซึ่งนอกจากเด็กจะสามารถใช้งานถุงปัสสาวะแบบพกพาได้แล้ว ผู้ใหญ่ก็ยังสามารถใช้งานได้ด้วยเช่นกัน
1. สีของน้ำปัสสาวะเข็มขึ้น หรือคล้ายน้ำล้างมือ
2 .มีกลิ่นฉุน
3. มีตะกอนมาก ลักษณะคล้ายหนอง
4.รู้สึกแสบขัด ไม่สุขสบายบริเวณหัวเหน่า
5. มีไข้สูง
6.อาจจะมีปัสสาวะรั่วซึมรอบๆ รูเปิดของท่อปัสสาวะ
✿ การวางถุงรองปัสสาวะ ให้วางถุงอยู่ตํ่ำกว่าระดับกระเพาะปัสสาวะหรือตํำกว่าตัวผู้ป่วยอยู่เสมอ หากจําเป็นต้องยกถุงขึนสูงเวลาเคลือนย้าย ให้หักสายสวนปัสสาวะไว้ก่อนเพือไม่ให้ปัสสาวะใน ถุงไหลย้อนขึนสู่ตัวผู้ป่วย ซึงจะทําให้เกิดการติดเชือได้
✿ เมือมีปัสสาวะเต็มถุงหรือเกินครึงถุงขึนไป ให้เปิดปลายถุงปัสสาวะปล่อยปัสสาวะออกทิ้ง โดยเช็ดปลายจุกด้วยสําลีชุบแอลกอฮอล์ก่อนและหลังการเปิด - ปิดจุก เพือลดการติดเชื้อ
✿ ควรเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะและถุงปัสสาวะเมื่อมีตะกอนขุ่นมากหรือเปลียนทุก 2 สัปดาห์ โดยปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือโรงพยาบาล
✿ ระวังไม่ให้ข้อต่อระหว่างสายถุงปัสสาวะหลุดออกจากสายสวนปัสสาวะ
✿ ระวังสายถุงปัสสาวะไม่ให้ดึงรััง เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บของท่อทางเดินปัสสาวะได้
✿ ระวังอย่านอนทับสายจนหักพับงอ เพราะอาจเกิดการคั้งของปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ
✿ ผู้ป่วยที่คาสายสวนปัสสาวะไว้สามารถทํากิจกรรมอื่นๆ ได้ตามปกติ หรือมีการออกกําลัง กายอย่างเหมาะสมกับสภาพ โดยระวังไม่ให้ถุงปัสสาวะอยู่สูงกว่าลําตัว
ขั้นตอนในการถอดถุงปัสสาวะได้แก่
- ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดและใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย
- เตรียม Syringe สะอาด ขนาด 10 ซีซี และภาชนะหรือถุงสำหรับใส่ถุงปัสสาวะที่จะถอดออกให้พร้อม
- ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกด้วยน้ำสบู่และล้างออกด้วยน้ำ
- ใช้ 70% Alcohol เช็ดบริเวณท่อที่จะดูดน้ำกลั่นออกมา (ท่อสายสั้นที่มีที่ปิดอยู่) และใช้ syringe ดูดน้ำกลั่นออกให้หมด ในกรณีที่ไม่สามารถดูดน้ำออกมาได้ ห้ามดึงสายสวนออกเด็ดขาด เพราะจะเกิดอันตรายถึงขั้นทำให้ถุงปัสสาวะฉีกขาดได้ ดังนั้น หากดูดน้ำไม่ออก ให้ปรึกษาแพทย์
- ดึงถุงปัสสาวะออกด้วยความนุ่มนวล หากดึงไม่ออก หรือมีอาการเจ็บมากขณะดึง หรือเมื่อดึงออกมาแล้ว พบมีเลือดหรือน้ำหนองออกมา ให้รีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
- ใสถุงปัสสาวะที่ถอดออกบนภาชนะหรือถุงที่เตรียมไว้ และนำไปทิ้งในถุงขยะติดเชื้อ