สายสวนปัสสาวะ คือ การสอดสายสวนที่เรียกว่า foley Catheter ผ่านทางท่อปัสสาวะเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ เพื่อระบายปัสสาวะออกสู่ภายนอก ทำให้กระเพราะปัสสาวะว่าง วัสดุผลิตจากซิลิโคนทางการแพทย์ แบ่งตามเทคนิคได้ 2 ชนิด ได้แก่ การสวนปัสสาวะชนิดเป็นครั้งคราว และการสวนปัสสาวะชนิดคาสายปัสสาวะ สำหรับสวนคาสายปัสสาวะ ชนิด 2 ทาง
ʕᵔᴥᵔʔ ช่องทางแรก เป็นทางให้ปัสสาวะไหลออกมา
ʕᵔᴥᵔʔ ช่องทางที่สอง เป็นทางสำหรับใส่น้ำกลั่นบริสุทธิ์ (Sterile water)
การสวนปัสสาวะมี 2 วิธี คือ
สายสวนปัสสาวะแบบทิ้ง มี 2 แบบ
● สายสวนปัสสาวะชาย
● สายสวนปัสสาวะหญิง
● สายสวนปัสสาวะ 1 หาง เป็นทางสำหรับระบายน้ำปัสสาวะ
● สายสวนปัสสาวะ 2หาง เป็นทางสำหรับใส่น้ำกลั่นที่ปลอดเชื้อเข้าไปในบอลลูน ให้สายสวนสามารถค้างในกระเพาะปัสสาวะได้
● สายสวนปัสสาวะ 3 หาง เป็นทางสำหรับใส่สารน้ำเข้าไปล้างในกระเพาะปัสสาวะตลอดเวลา(continuous irrigation)
วัตถุประสงค์ของการสวนปัสสาวะแบบสวนทิ้ง
วัตถุประสงค์ของการสวนปัสสาวะแบบคาสายปัสสาวะ
1. ดื่มน้ำประมาณวันละ 3000 ซีซี ถ้าไม่มีข้อจำกัด เรื่องการควบคุมน้ำดื่ม
2. ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนและแอลกอฮอล์เนื่องจากมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เช่น ชา กาแฟ เหล้า เบียร์
3.แขวนถุงเก็บปัสสาวะให้ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะประมาร 30 ซม ไม่ควรเกิน 40 ซม ระวังการดึงรั้งของสายสวนปัสสาวะ
4. ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ทุกวันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งโดยใช้สบู่กับน้ำสะอาด ห้ามใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของน้ำยาฆ่าเชื้อโรค อาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง
5. การทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ขณะที่คาสายสวนปัสสาวะโดยการล้างอวัยวะเพศและบริเวณขาหนีบ รวมทั้งบริเวณสายสวนปัสสาวะที่ต่อออกมาจากรูเปิดของท่อปัสสาวะให้สะอาด และล้างสายสวนปัสสาวะออกมาทางด้านนอกตัวผู้ป่วยอย่างนุ่มนวล
6. การยึดตรึงสายสวนปัสสาวะสำหรับผู้หญิงให้ยึดตรึงสายไว้บริเวณหน้าขาข้างใดข้างหนึ่งทั้งในท่านอนท่านั่ง
7. การยึดตรึงสายสวนปัสสาวะสำหรับผู้ชายขณะนอนบนเตียง ให้ยึดตรึงสายบริเวณหน้าท้อง เพื่อให้มีการระบายปัสสาวะที่ดีและยึดตรึงสายบริเวณหน้าขาขณะนั่ง
8. เปลี่ยนถุงปัสสาวะทุกสัปดาห์หรือเมื่อสกปรกมาก หรือรั้วซึมด้วยวิธีปราศจากเชื้อ
9. เปลี่ยนสายสวนปัสสาวะทุกๆ 2 สัปดาห์
10. ขนาดของสายสวนปัสสาวะที่เหมาะสมกับเพศ ในผู้ชายใช้สายสวนปัสสาวะขนาด 12 ถึง 14 Fr และในผู้หญิง ใช้ขนาด 14 ถึง 16 Fr
11. ดูแลสายสวนปัสสาวะไม่ให้มีการพับงอ
12. ควรเทปัสสาวะในถุงเก็บปัสสาวะอย่างน้อยทุก 3 ชม หรือเมื่อมีปัสสาวะประมาณ 2 ใน 3 ของถุงเก็บปัสสาวะ
13. ล้างมือก่อนและหลังจากเทปัสสาวะทุกครั้ง
สาเหตุของใส่สายสวนปัสสาวะมากที่สุด คือ เพื่อระบายปัสสาวะจากภาวะ acute obstruction หรือ neurogenic bladder สาเหตุรองลงมาคือการใส่เพื่อ monitor urine output ดังนั้นการเลือกขนาดของสายสวนปัสสาวะจะขึ้นกับข้อบ่งชี้ในการใส่, อายุของผู้ป่วยและชนิดของ fluid ที่จะระบาย ขนาดของสายสวนปัสสาวะจะมีหน่วยเป็น French (Fr) ซึ่ง 1 Fr จะมีค่าเท่ากับ 0.33 mm. ขนาดของสายสวนปัสสาวะเป็นส่วนของเส้นรอบวง (external diameter) ไม่ใช่ขนาดของ lumen size
✿ ถ้าปัสสาวะใส เลือกใช้สายสวนปัสสาวะขนาด 12-16 Fr
✿ เด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เลือกใช้สายสวนปัสสาวะขนาด 5-8 Fr
✿ เด็กอายุ 5-10 ปี เลือกใช้สายสวนปัสสาวะขนาด 8-10 Fr
✿ เด็กอายุ 10-14 ปี เลือกใช้สายสวนปัสสาวะขนาด 10 Fr
✿ เด็กมากกว่า 14 ปี เลือกใช้สายสวนปัสสาวะขนาด 10-14 Fr
สาเหตุของการปัสสาวะยากมักจะเกิดจาก ต่อมลูกหมากโต (prostate enlarge), ท่อปัสสาวะตีบ (urethral stricture) คอกระเพาะปัสสาวะตีบ (bladder neck contracture) หรือมีการบาดเจ็บของท่อปัสสาวะจากการใส่สายสวนปัสสาวะก่อนหน้าผู้ป่วยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปและไม่มีประวัติ sexually transmitted infections (STD), urethral trauma, urethral surgery สาเหตุของใส่สายสวนปัสสาวะลำบากมักจะเกิดจาก ต่อมลูกหมากโต จะต้องใช้สายสวนปัสสาวะที่มีขนาดใหญ่คือ 18 Fr ขึ้นไปและต้องใช้ lubricant gel ให้เพียงพอ แต่ในผู้ป่วยที่มีประวัติสงสัยเรื่อง urethral stricture เช่นผู้ป่วยที่มีประวัติติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อุบัติเหตุตกคร่อมต่อ หรือ กระดูกเชิงกรานหัก