อุปกรณ์บริหารปอด (Respiratory Trainer)
- ปอดเป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญมาก เพราะปอดทำหน้าที่เกี่ยวกับการหายใจและมีบทบาททำให้ร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่เข้ารับการผ่าตัด จะต้องทำให้ปอดนั้นแข็งแรงอยู่เสมอ มิเช่นนั้นจะเกิดโรคหรือภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่ง Triflow เครื่องเป่าปอดหรือเครื่องบริหารปอด จะช่วยให้สามารถบริหารปอดโดยไม่ต้องขยับร่างกายมาก เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพปอด สำหรับผู้ป่วยที่นอนพักฟื้นหลังผ่าตัด ลักษณะของอุปกรณ์บริหารปอดเป็นกล่องใส แบ่งออกเป็น 3 ช่องตามปริมาตรอากาศ ช่องลมแต่ละช่องบรรจุลูกบอลสีแดง / เหลือง / เขียว โดยแต่ละช่องมีเลขบอกปริมาตรอากาศที่ 600 / 900 / 1200 cc/sec ตามลำดับ และยังมี Mouthpiece เป็นท่อที่ใช้ในการดูดอากาศเข้าปอด นอกจากนี้ ในแต่ละช่องจะมีลูกบอลอยู่ช่องละ 1 ลูก แต่ละลูกจะมีสีที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นและจดจำ มีชุดกรองอากาศ (Air filter) สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ และมีช่องสำหรับเสียบสายส่วนที่สัมผัสกับปาก (Mouthpiece) ส่วนตัวเครื่องไม่มีส่วนผสมของ PVC และ LATEX
- จริงๆ แล้วเครื่องบริหารปอดหรือเครื่องเป่าปอดนี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Incentive spirometer เป็นชนิด Flow type จึงมักถูกเรียกสั้น ๆ ว่า Triflow เป็นเครื่องบริหารปอดแบบเพิ่มความจุอากาศของปอด เพื่อให้ปอดนั้นขยายตัวโดยการหายใจเข้า ลักษณะเป็นกล่องใส แบ่งออกเป็น 3 ช่องตามปริมาตรอากาศ ได้แก่ 600 , 900 และ 1200 ซีซี/วินาทีตามลำดับ และยังมี Mouthpiece เป็นท่อที่ใช้ในการดูดอากาศเข้าปอด นอกจากนี้ ในแต่ละช่องจะมีลูกบอลอยู่ช่องละ 1 ลูก แต่ละลูกจะมีสีที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นและจดจำ
วิธีใช้อุปกรณ์บริหารปอด
- ✿ จัดท่าทางให้ผู้ใช้นั่งให้สะดวก หากไม่สามารถลุกนั่งได้ให้ปรับระดับหัวเตียงให้สูง
- ✿ ให้ผู้ใช้หายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออกช้า ๆ ประมาณ 2 – 3 ครั้ง
- ✿ จากนั้น ให้ผู้ใช้อม Mouthpiece ปิดริมฝีปากให้สนิท และดูดลูกบอลให้ขึ้นช้า ๆ อย่างน้อย 3 – 5 วินาที
- ✿ บริหารปอดซ้ำวันละกี่ครั้งก็ได้ อย่างน้อย 5 – 10 ครั้งต่อวัน
- ✿ การดูแลตนเองควบคู่ไปกับการใช้ Triflowการใช้เครื่องบริหารปอดหรือเครื่องเป่าปอด ช่วยทำให้ปอดแข็งแรงก็จริง แต่ผลลัพธ์จะไม่ได้ผลเลย หากเราไม่ดูแลตนเองควบคู่ไปด้วย ซึ่งวิธีการดูแลตนเองทำได้ง่าย ๆ
- ✿ การกินอาหารผู้ป่วยและผู้สูงอายุ โดยส่วนใหญ่แล้ว ประเภทอาหารและสารอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย จะมีความคล้ายคลึงกัน ดังนี้
- ✿ อาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ซุปข้าวกล้อง – ธัญพืช ไข่ตุ๋น เพราะในผู้สูงอายุและผู้ป่วยผ่าตัด ระบบการย่อยอาหารจะทำงานได้ไม่ดี ดังนั้นควรเลือกกินอาหารที่ย่อยได้ง่าย จะส่งผลดีกับระบบการย่อยอาหารมากกว่า
- ✿ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เนื่องจากอาหารรสจัด อาจจะส่งผลให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วย เกิดอาการท้องเสียได้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอึดอัดแน่นท้องได้
- ✿ อาหารประเภทโปรตีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยผ่าตัด เนื่องจากโปรตีนมีส่วนสำคัญ ในการสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย และยังมีส่วนช่วยในการทำลายสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรค ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลติดเชื้อ อาหารประเภทโปรตีน จะเป็นพวกเนื้อสัตว์ ควรเลือกกินเนื้อปลา เพราะไขมันต่ำและย่อยได้ง่าย และควรปรุงเป็นอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้มปลา โจ๊กปลา
- ✿ อาหารประเภทผักและผลไม้ จะช่วยเรื่องระบบการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร และช่วยเพิ่มกากใย ทำให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยขับถ่ายได้ปกติ ส่งผลให้ท้องไม่ผูกและไม่อืด
- ✿ งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ คาเฟอีน น้ำหวาน น้ำอัดลม และสารเสพติดทุกชนิด เพราะเครื่องดื่มและสารเสพติดเหล่านี้ จะส่งผลให้เสียให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยมากมาย อีกทั้งยังเพิ่มโรคและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน
- ✿ ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพราะน้ำมีข้อดีต่าง ๆ มากมาย เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สุขภาพดี เช่น ช่วยส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหาร ขับแบคทีเรียออกจากร่างกายผ่านปัสสาวะ ควบคุมอุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิต เป็นต้น
- ✿ Triflow เครื่องเป่าปอด เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้ปอดแข็งแรง โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยก่อนและหลังการผ่าตัด เพื่อช่วยให้ป้องกันและลดภาวะแทรกซ้อน ผลลัพธ์ของการใช้เครื่องบริหารปอดจะออกมาดีและมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการที่ผู้ใช้ดูแลตนเองควบคู่ไปด้วย สิ่งสำคัญคือการต้องมีวินัยกับตนเอง เพียงเท่านี้เราก็จะมีปอดและร่างกายส่วนอื่นที่แข็งแรงไปพร้อมกันได้แล้วค่ะ
BACK