ไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) นั้นมาจากคำว่าตัวอักษรพีของคำว่า Permeability ที่แปลว่าการซึมผ่าน โดยเราอาจจะเรียกมันว่า ตัวควบคุมการซึมผ่านของเส้นเลือดฝอย หรือเราอาจได้ยินวิตามินพีกันในชื่ออื่นๆ เช่น เฮสเพอริดิน ซีคอมเพล็กซ์ ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ หรือ รูติน วิตามินพีเป็นวิตามินชนิดที่ละลายในน้ำ วิตามินพีจะประกอบไปด้วย เฮสเพอริดิน ซิตริน รูติน ฟลาโวนอลและฟลาโวน เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งคือวิตามินพีประเภทหนึ่งซึ่งเป็นสารสีเหลืองและสีส้มที่พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ผลไม้ในกลุ่มส้ม เป็นต้น วิตามินพีเป็นสารอาหารสำคัญที่ทำงานเสริมกับวิตามินซี เป็นตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพวิตามินซี
วิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นวิตามินสำคัญที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินซี และยังช่วยวิตามินซีในการสร้างความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินซี และป้องกันวิตามินซีจากการถูกทำลายโดยปฏิกิริยาออกซิเดชันชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสจากคุณสมบัติการเสริมประสิทธิภาพวิตามินซีคุณสมบัติสำคัญของไบโอฟลาโวนอยด์คือการบำรุงความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือด เส้นเลือดฝอย ป้องกันการเกิดรอยแผลฟกช้ำ 6 ข้อประโยชน์ของวิตามินพี (Bioflavonoids) ช่วยอะไร?
❀ รักษาและป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
❀ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
❀ แก้บรรเทาอาการปวดหัว วิงเวียนที่มีสาเหตุมาจากโรคในส่วนของหูชั้นใน
❀ ลดอาการบวมน้ำในร่างกาย
❀ โรคและอาการขาดวิตามินพี
❀ เส้นเลือดฝอยเปราะขาดง่าย เลือดกำเดาไหลง่าย
❀ ปัญหาเลือดออกตามไรฟัน
❀ ผิวพรรณไม่สดใส
❀ สุขภาพอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย
เราสามารถทานวิตามินพีได้จากผลไม้เป็นส่วนมาก และที่จำง่ายๆ คือเจ้าวิตามินพี (Bioflavonoids) มีอยู่ในผลไม้ประเภทเดียวกับวิตามินซีอีกด้วย อาหารที่มีวิตามินพี คือ มะนาว ส้ม ส้มโอ ลูกพลับ ฝรั่ง องุ่น มะขามป้อม แอพริคอท พริกหวาน มะเขือเทศ มะละกอ บรอคเคอลี่ แคนตาลูป ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รวมถึงผักผลไม้ที่มีรสชาติฝาดเปรี้ยวอีกด้วย
แหล่งอาหารธรรมชาติที่พบวิตามินพี– ไบโอฟลาโวนอยด์
ในผลไม้รสเปรี้ยวจะพบวิตามินพีได้มาก และแหล่งอื่นๆเช่น ในส่วนกากใยสีขาวของผลไม้ประเภท มะนาว ส้ม แอพริคอต เชอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ เกรปฟรุ้ต โรสฮิป แป้งบัควีท เป็นต้น
ประเภทอาหารเสริมวิตามินพี– ไบโอฟลาโวนอยด์
วิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบแยกเดี่ยว และแบบสูตรรวมผสมกับวิตามินซี ซึ่งจะเรียกว่า ซีคอมเพล็กซ์ ปริมาณที่นิยมรับประทานกันคือ เฮสเพอริดินและรูตินปริมาณอย่างละ 100 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 3 มื้อ และในส่วนของไบโอฟลาโวนอยด์มักระบประทานในปริมาณ 500 มิลลิกรัมต่อการรับประทานเฮสเพอริดินและรูตินปริมาณ 50 มิลลิกรัม
เคล็ดลับเพิ่มเติม
ในอาหารเสริมวิตามินซีทุกรูปแบบ จะสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นหากมีส่วนผสมของวิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์ วิตามินพีจะไม่ถูกกับแสง ความร้อน ออกซิเจนในบรรยากาศ น้ำ การปรุงประกอบอาหาร และการสูบบุหรี่
ผู้ใดควรรับประทานวิตามินพีเสริม
คำแนะนำในการรับประทาน
ในทางการแพทย์ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการว่าควรรับประทานวิตามินพีวันละเท่าไร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผลวิจัยแนะนำว่าควรรับประทานวิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์เพิ่มปริมาณอย่างน้อย 100 มิลลิกรัม เมื่อรับประทานวิตามินซีปริมาณ 500 มิลลิกรัม