อุปกรณ์ประคองคอ (Cervical collar) คือ ปลอกคอที่ทำด้วยพลาสติกแข็งและทำด้วยผ้ายืดหุ้มฟองน้ำ ส่วนชนิดแข็งมีทั้ง ชนิดที่มีและไม่มีร่องรองรับส่วนคาง การดูแลผู้ป่วยที่ใส่ปลอกคอเป็นการใส่ปลอกคอ อุปกรณ์ประคองคอ (Cervical collar) ให้ผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บที่กระดูกสัน หลังระดับคอ เป็นเฝือกคอชนิดอ่อน ใส่นุ่มสบาย ไม่อึดอัด ใช้เพื่อช่วยศีรษะและกระดูกคอให้อยู่ในท่าที่ถูกต้อง ใช้พยุงคอผู้ที่มาอาการปวด เจ็บ กล้ามเนื้อที่คอ ผู้ที่มาอาการบาดเจ็บกระดูกที่คอ และลดการเคลื่อนไหวของกระดูกคอ ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกคอ
✿ ชนิดแข็ง ทำความสะอาดโดยน้ำไปล้างด้วยสบู่หรือผงซักฟอกและล้างด้วยน้ำให้สะอาดเช็ดหรือตากให้แห้ง
✿ ชนิดอ่อน ซักทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่หรือผงซักฟอก และล้างด้วยน้ำสะอาด บีบน้ำออกให้หมดแล้วตากให้แห้ง
✿ ชนิดค้้ำ 4 ขา เช็ดทำความสะอาดตามปกติ
สำหรับผู้ป่วยจะใช้เครื่องพยุงคอชนิดใดนั้นจะอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น ซึ่งแพทย์จะพิจารณาจากอาการและโรคของผู้ป่วย
โดยทั่วไปแพทย์จะใส่เครื่องพยุงคออยู่นานประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ ส่วนใหญ่จะใส่เฉพาะเวลาลุก นั่ง ยืน หรือเดินเท่านั้น ขณะนอนไม่จำเป็นต้องใส่ ยกเว้นในรายที่มีอาการเจ็บเฉียบพลัน ซึ่งแพทย์และพยาบาลจะอธิบายให้ทราบเป็นรายๆ ไป
วิธีใส่อุปกรณ์ประคองคอ
✿ ในกรณีที่แพทย์ยังไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยลุกนั่งให้ผู้ป่วยนอนราบ ค่อยๆ สอดเครื่องพยุงคอให้กระชับกับลำคอด้านหน้า โดยให้ส่วนที่รองรับคางไปอยู่ตรงกลางพอดี แล้วนำปลายที่ประคองคอมาติดกัน
✿ ในกรณีที่ป่วยลุกนั่งได้ ให้ใส่ขณะที่อยู่ในท่านั่ง
✿ ที่ประคองคอชนิดค้ำ 4 ขา ควรมีผู้ช่วยเหลือในการใส่ โดยใส่ให้กระชับและควรสวมเสื้อก่อนใส่ เพื่อไม่ให้แกนอลูมิเนียมกดทับหนังโดยตรง
1) Philadelphia collar เป็นชนิดที่มีสองส่วนคือส่วนหน้าและส่วนหลัง โดยมีค าว่า “Front” และ คำว่า “Back” ก ากับไว้ แต่ละส่วนจะมีลูกศรชี้ขึ้นเพื่อให้วางรับกับคาง(Front)และด้านหลังของศีรษะผู้ป่วย(Back)
2) เลือกขนาดของ Philadelphia collar (small, medium, large) ให้เหมาะสมกับขนาดของผู้ป่วย
3) ก่อนทำการใส่ปลอกคอ แพทย์ควร มีผู้ช่วยเพื่อให้ผู้ช่วยประคองด้านข้างของศีรษะผู้ป่วยไว้เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวระหว่างการใส่ Philadelphia collar
4) ผู้ช่วยอีกคนหนึ่งสอด Philadelphia collar ส่วนหลังไปใต้คอของผู้ป่วยโดยมีผู้ช่วยอีกคนคอยรับและดึง collar
5) จัดให้Philadelphia collar ส่วนหลัง(Back)อยู่พอดีกับด้านหลังของส่วนคอของผู้ป่วย
6) ใส่ Philadelphia collar ส่วนหน้า(Front)ให้คร่อมส่วนหลังเพื่อให้ส่วน Velcro มีพื้นที่ในการติดมากที่สุดเพื่อให้ Philadelphia collar มีความกระชับมากที่สุด
การใส่ Philadelphia collar ที่มีขนาดพอดีไม่หลวมหรือแน่นเกินไป เพื่อระมัดระวังไม่ให้กระดูกคอเคลื่อน เพื่อการจำกัดการเคลื่อนไหวและเป็นการควบคุมแนวของกระดูกสันหลัง จนบริเวณที่กระดูกหักติดเข้าที่
จัดท่าผู้บาดผู้บาดเจ็บให้อยู่ในท่าตรง ไม่ก้มหรือเงยคอ หากผู้บาดเจ็บนอนคว่ำอยู่ต้องพลิกให้ผู้บาดเจ็บนอนหงายก่อนทุกครั้งใช้นิ้ววางทาบวัดความสูงจากบ่าจนถึงปลายคางของผู้บาดเจ็บแล้วนำระยะที่วัดได้ (จำนวนนิ้ว) เทียบกับขนาดของเฝือกคอ โดยด้านบนให้นิ้ววางบริเวณลูกศรที่เขียนว่า “SIZING GUIDE” นิ้วล่างวางให้พอดีขอบพลาสติก (ไม่ใช่โฟม) ของเฝือกคอบริเวณที่จะวางบนบ่าของผู้บาดเจ็บเลือกขนาดที่ใกล้เคียงที่สุด หากวัดขนาดแล้วความสูงที่ได้คาบเกี่ยวอยู่ระหว่างสองขนาด ให้เลือกขนาดที่เล็กกว่าก่อน
การซักประวัติ ผู้บาดเจ็บทุกรายให้สงสัยไว้ก่อนว่ามีบาดเจ็บของกระดูกคอจึงต้อง ป้องกันโดยใส่ Philadelphia collar ไว้ทุกรายจนกว่าจะวินิจฉัยได้ว่าไม่มีบาดเจ็บแล้วจึงถอดออก อุบัติเหตุและประวัติใดที่สงสัยว่าบาดเจ็บไขสันหลัง ต้องใส่อุปรณ์พยุงคอแบบเจาะคอ Philadelphia Collar
✿ ปวดตึงต้นคอ หรือความรู้สึกที่แขน ขาลดลง
✿ ปวดหลังหรือปวดตามแนวกึ่งกลางหลัง จะปวดมากขึ้นถ้าร่างกายมีการ
✿ เคลื่อนไหวเช่น ขยับตัว บางรายอาจบ่นรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งตามตัวและแขนขา
✿ ความดันโลหิตต่ำร่วมกับชีพจรช้า
✿ มีบาดเจ็บเหนือกระดูกไหปลาร้าหรือมีบาดเจ็บที่ใบหน้าอย่างรุนแรง
✿ ตกจากที่สูงมากกว่า 3 เท่าของความสูงของผู้ป่วยหรือสูงมากกว่า 6 เมตร
✿ ตกจากที่สูงในแนวดิ่ง เช่น มีกระดูกส้นเท้าหักหรือก้นกระแทกพื้นหรือ
✿ อุบัติเหตุขณะดำน้ำหรือว่ายน้ำ
✿ กระเด็นออกนอกยานพาหนะ เช่น รถยนต์มอเตอร์ไซค์หรือนั่งในรถยนต์โดย
✿ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
✿ ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ทรวงอกและภายในช่องท้อง
✿ ให้ประวัติควบคุมปัสสาวะไม่ได้หลังบาดเจ็บ
✿ ได้รับบาดเจ็บจากการแขวนคอ(hanging)