สำหรับพ่อแม่ลูกเป็นสิ่งมีชีวิตที่ล้ำค่าที่สุดในโลก ไม่ว่าพ่อแม่อยากจะทำกิจกรรมอะไร กิจกรรมนั้นจำเป็นต้องมีลูกน้อยร่วมกิจกรรมด้วย เพราะถือว่าเป็นการสานความสัมผัสระหว่างครอบครัวให้แน่นแฟ้นขึ้น แต่ถ้าวันไหนที่ไปทะเล หรือเล่นน้ำในช่วงหน้าร้อนแล้วล่ะก็ ความกังวลก็จะเกิดขึ้นกับคนเป็นพ่อเป็นแม่ทันที เพราะผิวลูกน้อยเป็นผิวที่บอบบางเป็นอย่างมาก สิ่งที่จำเป็นสำหรับพ่อแม่คือการมองหา “ครีมกันแดดสำหรับเด็ก” สักตัวเพื่อป้องกันลูกน้อยจากแสงแดด เมื่อผิวของเราได้รับแสงแดด โดยเฉพาะแสงแดดที่แรงมากขึ้นทุก ๆ ปีในบ้านเรา เซลล์ผิวหนังก็จะสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำขึ้น และบางคนอาจเกิดปัญหาฝ้า กระ ตามมา ถ้าได้รับแสงแดดจัดมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการแดงหรืออาการถูกแดดเผาได้ นอกจากนี้รังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดดยังอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
แน่นอนว่าปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็กที่ผลิตออกมามากมายทั้ง ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว, ครีมกันแดดสำหรับผิวมัน, ครีมกันแดดสำหรับผู้ชายและครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ความเป็นจริงแล้วผิวเด็กนั้นบางกว่าผิวผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า และมีชั้นเกราะปกป้องผิวและกระบวนการป้องกันตนเองจากแสงแดดที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงต้องการครีมกันแดดสำหรับเด็กที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้มากกว่าผู้ใหญ่ นอกจากนี้เม็ดสีเมลานินในผิวเด็กก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่เช่นกัน ทำให้ผิวเด็กมีความไวต่อรังสียูวีมากกว่าผู้ใหญ่ จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ครีมกันแดดเด็กที่มีคุณสมบัติเพื่อการปกป้องผิวบอบบางของเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งไม่เพียงแต่จะต้องมีประสิทธิภาพในป้องกันแสงแดดสูงสุดเท่านั้นแต่ครีมกันแดดต้องเป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวและช่วยเสริมเกราะปกป้องผิวตามธรรมชาติของผิวเด็กด้วย
โดยเฉพาะผิวของเจ้าตัวเล็กยิ่งมีความบอบบางมากกว่าผิวของผู้ใหญ่ การทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะถ้าปล่อยให้ลูกน้อยสัมผัสกับแสงแดดนาน ๆ รังสีอัลตราไวโอเลตอาจเป็นตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดรอยไหม้จากแสงแดด เกิดริ้วรอยที่ผิวหนัง และเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้นการทาครีมกันแดดเป็นประจำ เมื่อต้องสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงจึงช่วยปกป้องผิวและทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพผิวที่ดีได้
สาเหตุ ที่คุณแม่หรือผู้ปกครองที่ควรต้องทราบว่าทำไมครีมกันแดดจึงจำเป็นต่อลูกน้อยหรือเด็ก แล้วจะมีวิธีการอย่างไรในการเลือกครีมกันแดดเหล่านั้นเพื่อประโยชน์สูงสุด การเลือกครีมกันแดดให้ถูกต้องคือสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องรู้เพื่อปกป้องผิวลูกน้อย ได้แก่
Physical Sunscreen ปกป้องไม่ทำร้ายผิวเด็ก
ในเด็กอายุมากกว่า 6 เดือน สามารถใช้ครีมกันแดดที่ทำจากสารประเภท Physical Sunscreen ทำหน้าที่สะท้อนรังสีUV ออกจากผิวหนังทันที ส่วนผสมของสาร Physical Sunscreen นี้ไม่ดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังและปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ปกครองควรสังเกตข้างฉลากมักมีส่วนประกอบของ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เป็นหลัก เนื่องจากแต่ละผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน แนะนำให้อ่านฉลากกำกับทุกครั้งก่อนการใช้
✿ ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ แน่นอนว่าเด็กย่อมรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมากหากครีมกันแดดที่ทาทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวหนังคุณสมบัติข้อแรกที่จำเป็นอย่างมากและควรมีในครีมกันแดดเด็กคือ เนื้อสัมผัสที่บาเบา แห้งเร็ว ซึมไว และไม่ทิ้งความมันตกค้างไว้
✿ สูตรอ่อนโยนต่อผิว เนื่ิองจากผิวเด็กมีความบอบบางกว่าผู้ใหญ่ ครีมกันแดดสำหรับเด็กจึงไม่ควรมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ควรปราศจากนำ้หอม แอลกอฮอล์ พาราเบน สี หรือเป็นสูตรที่ออกแบบเพื่อผิวอ่อนโยนโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้คุณพ่อคุณแม่ในการใช้งาน รวมถึงมีสารสำคัญที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวกายหลังการทำร้ายแสงแดด
✿ ใช้งานสะดวก เด็กวัยกำลังซนอาจไม่อยู่นิ่งให้นิ่งให้คุณได้จัดการทาครีมกันแดดได้เรียบร้อย ครีมกันแดดเด็กที่มาในรูปแบบของสเปรย์ หรือหัวปั๊ม จะช่วยให้ทากันแดดได้เร็วขึ้น
✿ ครีมกันแดดที่ใช้กับเด็ก ควรเป็นครีมกันแดดสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้ลูกได้รับสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายควรเลือกครีมกันแดดชนิดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป นอกจากนี้หากครีมกันแดดเป็นชนิดกันน้ำ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการกันแดดมากยิ่งขึ้น
ครีมกันแดด เลือกใช้ให้ถูกลูกน้อยไม่แพ้ สังเกตอาการแพ้จากครีมกันแดด มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่มีอาการแพ้เป็นผื่นที่เกิดจากสารเคมีในครีมกันแดด ลักษณะอาการที่พบ ได้แก่
ถ้าลูกน้อยมีอาการดังกล่าว ควรรีบพบกุมารแพทย์เพื่อทำการรักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้ลูกน้อยหงุดหงิด ไม่สบายตัว อาจมีผลกระทบการใช้ชีวิตประจำวันและพัฒนาการไม่สมวัยได้ หน้าร้อนคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมทาครีมกันแดดที่เหมาะสม ผิวลูกน้อยจะได้สุขภาพดีไปอีกนาน