พริกไทยดำ หรือ Black pepper ได้มาจากผลพริกไทยแห้งแก่จัดแต่ยังไม่สุก มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Piper nigrum L. เป็นเครื่องยาประจำท้องถิ่นของไทย ผลมีลักษณะเป็นทรงกลมรัศมีประมาณ 2-4 เซนติเมตร แห้งและมีสีดำ เปลือกภายนอกมีสีน้ำตาลเข้มถึงสีดำและมีรอยย่นสามารถลอกออกง่าย ส่วนเปลือกชั้นในบางและค่อนข้างแข็ง
พริกไทยดำถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเทศหรือเครื่องปรุงอาหาร เพราะมีกลิ่นหอมฉุนและรสเผ็ดร้อน และยังมีการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพร เนื่องจากพริกไทยดำมีสรรพคุณทางยาต่าง ๆ มากมาย เช่น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อ บำรุงไฟธาตุ ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย เป็นต้น นอกจากนี้ในพริกไทยดำยังมีสารออกฤทธิ์ที่มีความสามารถในการระงับปวดหรือบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้อีกด้วย
นอกจากนี้บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ปรากฏการใช้พริกไทยในยารักษาอาการโรคในระบบต่างๆของร่างกาย ได้แก่ ตำรับ “ยาประสะกานพลู” มีส่วนประกอบของพริกไทยร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ ตำรายาไทยพริกไทยจัดอยู่ใน “พิกัดตรีกฎุก” แปลว่าของที่มีรสร้อน 3 อย่าง เป็นพิกัดยาที่ประกอบด้วยเครื่องยา 3 อย่าง ในปริมาณเสมอกันคือ เมล็ดพริกไทย เหง้าขิงแห้ง และดอกดีปลี มีสรรพคุณแก้โรคที่เกิดจากวาตะ(ลม) เสมหะ และปิตตะ(ดี) ในกองธาตุ กองฤดู กองอายุ และกองสมุฏฐาน “พิกัดตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด” คือการจำกัดจำนวนตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด คือ พริกไทย ดีปลี ผลผักชีลา ใบแมงลัก ผลกระวาน ใบโหระพา มีสรรพคุณแก้ลมจุกเสียด ช้ำบวม ช่วยย่อยอาหาร พริกไทยใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในยาแผนโบราณของจีนและอินเดีย ใช้แก้หวัด ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดประจำเดือน คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย
ในพริกไทยดำ มีส่วนประกอบของสาร “ไพเพอร์รีน” ที่มีคุณสมบัติ ในการต่อต้านความอ้วน พริกไทยดำ มีจุดเด่นในเรื่องของ ความฉุน และรสชาติที่เผ็ดร้อน ช่วยในการควบคุม การก่อตัวของเซลล์ไขมันใหม่ให้ลดลง พร้อมกับทำลายเซลล์ไขมันเก่า ที่สะสมอยู่ภายในร่างกาย ให้มีจำนวนลดลง และกลับมาอ้วนได้ยากขึ้น และเข้าไปกระตุ้น การหลั่งของกรด ในกระเพาะอาหาร ทำให้ร่างกาย เผาผลาญพลังงาน ที่ได้รับจาการรับประทานอาหาร ไปใช้ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ทำให้ไม่เกิดการสะสมของไขมัน ซึ่งเป็นสำเหตุสำคัญ ที่ทำให้เกิดความอ้วน
❀ สำหรับเด็กระบบย่อยอาหารไม่ดี พริกไทยขาว 1.0 กรัม น้ำตาลกลูโคส 9.0 กรัม ผสมกันเป็นยาผง
❀ เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ กินครั้งละ 0.3-0.5 กรัม วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 1-3 วัน
❀ เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป กินครั้งละ 0.5-1.5 กรัม วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 1-3 วัน
ทั้งนี้มักใช้ไม่เกินครั้งละ 2 กรัม
❀ ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง พริกไทยขาว 7 เม็ด ชะมดเชียง 0.15 กรัม ใช้ชะมดเชียงใส่ที่สะดือก่อน แล้วใช้พริกไทยโรยทับข้างบน ใช้ผ้าขาวปิดทับปลาสเตอร์ติดแน่นทิ้งไว้ 7-10 วันแล้ว เปลี่ยนครั้ง 10 ครั้งเป็น 1 ระยะของการรักษา
❀ ลดอาการท้องอืดเฟ้อ แน่นจุกเสียดและช่วยขับลม ใช้ผลบดเป็นผง ปั้นเป็นลูกกลอน รับประทานครั้งละ 0.5-1 กรัม (ประมาณ 15-20 เมล็ด) หรือ จะใช้ผงชงน้ำดื่ม รับประทาน 3 เวลาหลังอาหาร
❀ การรับประทาน ก่อนอาหาร ประมาณ 10 นาที ครั้งละ 2 – 4 แคปซูล เพื่อประสิธิภาพ ในการเผาผลาญไขมัน แต่ห้ามรับประทานทันที หลังทานอาหารเสร็จ เพราะจะทำให้เกิดอาการเรอ และท้องอืดทันที
❀ นอกจากนี้ ให้รับประทานแต่พอดี ไม่ควรทานติดต่อกัน นานเกิน 6 เดือน และทานในปริมาณ ที่มากเกินไป
❀ การทา ทาทุกวัน หลังอาบน้ำเย็น หรือ ก่อนนอน วิธีนี้จะช่วยสลายไขมัน ตรงจุดนั้น ให้ผิวเรียบลื่น ไม่เป็นลูกคลื่น