สารสกัดมะขามป้อม มีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ แก้ท้องเสีย นอกจากนี้มีรายงานวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติการบำรุงดูแลผิวพรรณ ได้แก่ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติทำให้ผิวขาวขึ้น ดังนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยสมุนไพร จึงพัฒนาสมุนไพรไทยชนิดนี้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยศึกษาวิธีการเตรียมสารสกัดจากมะขามป้อม ซึ่งปลูกในสวนสมุนไพรกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดจันทบุรี ที่มีการควบคุมคุณภาพและการทดสอบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน นำมาวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งมีการทดสอบด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในอาสาสมัคร
มะขามป้อมจัดเป็นยาสมุนไพรที่มีการใช้ในการรักษาโรคหลายๆโรคตามตำราของการแพทย์ในอดีต เช่น โรครูมาตอยด์ที่ปวดข้อ, โรงหนองใน, โรคหอบหืด, โรคเกี่ยวกับดวงตา, โรคเบาหวาน , โรคหัวใจ และ โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งสารออกฤทธิ์ที่สำคัญที่พบในสารสกัดมะขามป้อม เช่น วิตามินซี สารในกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenols) และ สารในกลุ่มไตรเทอปีนอยด์ (Triterpenoids) เป็นต้น และสารออกฤทธิ์ทางยาที่สำคัญเหล่านี้ มีรายงานการศึกษาวิจัยที่พบประโยชน์ในทางการแพทย์ ดังนี้
ʕᵔᴥᵔʔ คุณสมบัติในการลดไขมันในเลือด (Dyslipidemia) โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ที่เกิดจากการตีบ แตก หรือ ตันของเส้นเลือด มักมีระดับไขมันในเลือดเข้ามาเกี่ยวข้อง และระดับไขมันในเลือดก็จัดว่า เป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่จะก่อให้เกิดโรคดังกล่าวขึ้นได้ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า สารออกฤทธิ์ทางยาที่พบในมะขามป้อม สามารถลดระดับไขมันในเลือดได้ เช่น ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลแบบรวม เป็นต้น
ʕᵔᴥᵔʔ คุณสมบัติในการลดน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน (Anti-diabetic mellitus) จากการศึกษาวิจัยพบว่า สารออกฤทธิ์ทางยาที่พบในมะขามป้อม ที่ชื่อว่า chlorogenic acid สามารถยับยั้งหรือชะลอการดูดซึมของน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้ ด้วยการยับยั้งเอนไซม์ที่ชื่อว่า alpha-glucosidase ที่มีหน้าที่เปลี่ยนแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตให้เป็นน้ำตาลกลูโคสที่บริเวณลำไส้เล็ก
ʕᵔᴥᵔʔ คุณสมบัติในการลดความดันโลหิตสูง (Anti-hypertension) สารออกฤทธิ์ทางยาที่พบในมะขามป้อมในกลุ่มฟลาโวนอล (flavonols) และ แอนโทไซยานิน (anthocyanins) มีคุณสมบัติในการช่วยลดระดับความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้ และยังช่วยให้ผนังของหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นดี รองรับการบีบตัวและคลายตัวเพื่อรองรับเลือดที่ไหลผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคในระบบหลอดเลือดและหัวใจ
ʕᵔᴥᵔʔ คุณสมบัติในการลดสารอนุมูลอิสระ (Antioxidants) มะขามป้อม จัดเป็นผลไม้ที่มีสารออกฤทธิ์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแรง ซึ่งประกอบไปด้วย วิตามินซี วิตามินอี สารแอนโทไซยานิน ซึ่งสามารถปกป้องเซลล์ของร่างกายได้ หรือ ช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระ
ʕᵔᴥᵔʔ คุณสมบัติในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน (Immunostimulants) การที่มะขามป้อมอุดมไปด้วยวิตามินซี จึงทำให้มะขามป้อมมีคุณสมบัติในการช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้ทำงานในการกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น สารสกัดจากมะขามป้อม จึงเป็นสารสกัดจากผลไม้ที่มีการใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน สามารถช่วยให้ผู้ป่วย หรือ ผู้คนทั่วไป สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ และโรคต่างๆที่กำลังเจ็บป่วยอยู่ นั่นเอง ดังนั้นแล้ว มะขามป้อมจึงมีสรรพคุณทางยา และให้คุณค่าทางอาหารเสริมอีกหลายอย่าง เพราะคุณประโยชน์มีมากกว่าสมุนไพรบ้านๆทั่วไป
✿ วิตามินซีในมะขามป้อมสามารถดูดซึมได้เร็วกว่าวิตามินซีในรูปอื่นๆ
✿ ใช้บำรุงผิวพรรณให้ขาวสดใส รักษาฝ้า กระ ชะลอการเกิดริ้วรอย
✿ ช่วยบำรุงและรักษาสายตา รักษาตาแดง ตาอักเสบ
✿ ช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง
✿ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์จากการทำลายจากอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ในการต้านเซลล์มะเร็ง
✿ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
✿ ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด การป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
✿ ช่วยรักษาและป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
✿ ช่วยป้องกันและรักษาโรคความดันโลหิตสูง
✿ ช่วยบำรุงปอด หลอดลม หัวใจ และกระเพาะ รักษาโรคหอบ หืด หลอดลมอักเสบ อาการคลื่นไส้อาเจียนได้
✿ ล้างพิษในตับ ช่วยกำจัดพิษจากโหละหนักเช่น สารตะกั่วออกจากร่างกาย ยับยั้งความเป็นพิษของตับและไตได้
✿ มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา
✿ ประโยชน์มะขามป้อม แก้ไอ ช่วยกระตุ้นให้น้ำลายออก ช่วยละลายเสมหะ มีวิธีใช้ดังนี้
✿ ใช้เนื้อผงสด ครั้งละ 2-5 ผล โขลกพอแหลก แทรกเกลือเล็กน้อย อม หรือ เดี่ยว วันละ 3-4 ครั้ง
✿ ผลมะขามป้อมสดฝนกับน้ำแทรกเกลือจิบบ่อยๆ หรือใช้ผลมะขามป้อมสดจิ้มเกลือรับประทาน
✿ ผลสดตำคั้นเอาน้ำดื่ม หรือผลแห้ง 6-12 กรัม (ผลสด 10-30 ผล) คั้นน้ำดื่มหรือเคี้ยวอมบ่อยๆ
✿ อาการเป็นหวัด ไอ เจ็บคอ ปากคอแห้ง ใช้ผลสด 15-30 ผล คั้นเอาน้ำ มาจากผล หรือต้มทั้งผลแล้วดื่ม แทนน้ำเป็นครั้งคราว
✿ บำรุงร่างกายให้แข็งแรง มะขามป้อมมีรสเปรี้ยว ฝาด ขม เช่นเดียวกับสมอไทย จึงสามารถ แก้โรคต่างๆ ได้มาก เช่นเดียวกับสมอไทย ดื่มน้ำมะขามป้อมคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) กับน้ำมะระขี้นกคั้นสด 1 ถ้วย ทุกวันเป็นเวลาสองเดือนสามารถกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่นอินซูลินและลดระดับน้ำตาลในเลือด
✿ ท้องผูก นำมะขามป้อมมาผ่าแคะเม็ดออก (กินแต่เนื้อ) ประมาณ 10 ลูก ใส่พริก เกลือ น้ำตาล ตำพอแหลก กินต่างผลไม้ แต่ควรกินก่อนนอน หรือตอนตื่นนอนใหม่ๆ ในขณะที่ท้องว่าง
✿ รับประทานมะขามป้อมเป็นยาแก้ไอผสมมะขามป้อม
สูตรตำรับที่ 1 ในยา 100 มิลลิลิตร ประกอบด้วย สารสกัดน้ำมะขามป้อมเข้มข้น (ความเข้มขัน 40 เปอร์เซ็นต์) 60 มิลลิลิตร สารสกัดใบเสนียด (ความเข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์) 10 มิลลิลิตร กลีเชอรีน 5 มิลลิลิตร สารสกัดรกชะเอมเทศ 0.45 มิลลิลิตร เกลือแกง 0.5 กรัม เกล็ดสะระแหน่ 0.01 มิลลิกรัม
สูตรตำรับที่ 2 ในยา 100 มิลลิลิตร ประกอบด้วย สารสกัดน้ำมะขามป้อมเข้มข้น (ความเข้มข้น 25 เปอร์เซ็นต์) 30 มิลลิลิตร มะนาวดอกแห้ง 8 กรัม สารสกัดรากชะเอมเทศ 5 มิลลิลิตร ผิวส้มจีน 3.3 มิลลิกรัม บ๊วย 3 มิลลิกรัม เนื้อลูกสมอพิเภก 3 กรัม เนื้อลูกสมอไทย 1 มิลลิกรัม หล่อฮังก๊วย 2 มิลลิกรัม เกล็ดสะระแหน่ 0.08 มิลลิกรัม น้ำตาลทรายแดง 40 มิลลิกรัม
มะขามป้อมเป็นพันธุ์ไม้ที่ทนแล้วได้ดี เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8 – 20 เมตร ขนาดโตวัดรอบไม่เกิน 80 เซนติเมตร ลำต้นมักคดงอ เปลือกค่อนข้าเรียบเกลี้ยง สีน้ำตาลอ่อน เปลือกในสีชมพูสด เรือนยอดรูปร่ม
โดยทั่วไปการรับประทานมะขามป้อมค่อนข้างมีความปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณปกติจากอาหาร แต่มีข้อควรระวังบางประการ ดังนี้
1. หญิงมีครรภ์และคุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงที่จะรับประทาน เนื่องจากยังไม่พบข้อมูลยืนยันความปลอดภัย
2. มะขามป้อมอาจก่อให้เกิดภาวะเลือดออกผิดปกติหรือรอยช้ำในบางราย ผู้ที่มีภาวะเหล่านี้จึงควรระมัดระวังในการรับประทานให้มากขึ้นหรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน รวมถึงผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดรับประทานมะขามป้อมอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เพื่อความปลอดภัย
3. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรระวังในการรับประทานเป็นพิเศษและปรึกษาแพทย์เสมอ เนื่องจากมะขามป้อมอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง จึงอาจมีความจำเป็นในการปรับชนิดและขนาดยาโดยแพทย์หากต้องการรับประทาน
4. ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะขามป้อม เนื่องจากตามหลักทฤษฎีพบว่าการรับประทานมะขามป้อมกับสมุนไพรบางชนิด เช่น ขิง บอระเพ็ด กำยาน อาจส่งผลให้การทำงานของตับในผู้ป่วยโรคไตแย่ลง แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการรับประทานมะขามป้อมเพียงอย่างเดียวจะส่งผลเหมือนกันหรือไม่
5. ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลรายงานถึงปฏิกิริยาของมะขามป้อม กับยาหรือสมุนไพรอื่น
ข้อควรระวังในการรับประทาน
การใช้มะขามป้อม จัดเป็นยารสเปรี้ยว ฝาด เย็น ผู้ที่หนาวเย็นง่าย ไม่ควรกินมะขามป้อมมาก ต่อเนื่อง เกินจำเป็น ผู้ที่มีปัญหาเลือดจาง ใส เหลวกว่าปกติ ก็ไม่ควรทานมากทานประจำ ผู้ที่แน่นท้องแบบไฟธาตุน้อย ก็ระวังปริมาณในการทาน หรือ ให้ปรับธาตุอาหารสมุนไพรที่ทาน ให้มีความอุ่นร้อนเพิ่มขึ้น สำหรับยาน้ำแก้ไอสูตรผสมผงมะขามป้อม ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ผู้ป่วยที่ท้องเสียง่าย เนื่องจากมะขามป้อมมีฤทธิ์เป็นยาระบาย