วิตามินบี 5 เป็นที่รู้จักในว่าเป็นวิตามินที่ใช้ต้านความเครียด วิตามินบี 5 มีความสำคัญในการผลิตฮอร์โมนที่ต่อมหมวกไต และการสร้าง antibody ต่างๆ ในร่างกาย และช่วยเปลี่ยนแปลงไขมัน, คาร์โบไฮเตรด, และโปรตีนให้เป็นพลังงาน วิตามินบี 5 มีความจำเป็นในทุกเซลล์ของร่างกาย และมันยังเกี่ยวข้องกับการสร้างสารสื่อประสาท และวิตามินนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของ Coenzyme A ซึ่งเป็นสารที่มีความสำคัญที่เกี่ยวกับกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย มันยังมีความจำเป็นต่อการทำงานของระบบการย่อยอาหารและอาจจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคซึมเศร้าและวิตกกังวล
วิตามินบี 5 จะทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบหลักของเอนไซม์เอ ซึ่งจะคอยดักจับและทำลายหมู่ซิทิลจากสารประกอบต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายและยังสามารถพบได้ในเนื้อเยื่อทุกชนิดอีกด้วย นอกจากนี้ก็มีหน้าที่อื่นๆ เช่น
ʕ·ᴥ·ʔ วิตามิน บี 5 ช่วยในการสังเคราะห์สาระสำคัญชนิดหนึ่ง ที่จะทำหน้าที่ในการส่งผ่านกระแสประสาทโดยเฉพาะ ซึ่งก็คือ อะซีทิลโคลีน
ʕ·ᴥ·ʔ ทำหน้าที่ในการเป็นตัวร่วมในการสร้างอะซีทิลโคเอนไซม์เอ โดยเป็นสารที่จะช่วยในการผลิตพลังงานให้กับร่างกาย ซึ่งผลิตจากไขมัน โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง
ʕ·ᴥ·ʔ ช่วยสังเคราะห์กรดไขมัน สเทอรอลและคอเลสเตอรอล รวมถึงฟอร์ไฟริน ที่มีหน้าที่สำคัญในการสร้างเฮโมโกลบินโดยเฉพาะ
ʕ·ᴥ·ʔ ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์สารที่มีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างเฮโมโกลบิน ซึ่งได้แก่ สารพอร์ไฟริน
ʕ·ᴥ·ʔ ช่วยสังเคราะห์กรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย
ʕ·ᴥ·ʔ ช่วยรักษาอาการเหน็บชาที่มือและเท้า
มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง อ่อนเพลีย เป็นตะคริวได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง มีอาการคลื่นไส้อาเจียนและแสบร้อนตามผิวหนัง และอาจมีปัญหาการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงระบบประสาทไม่สม่ำเสมอ จนเป็นผลให้รู้สึกเหนื่อยง่าย หงุดหงิด และมีภาวะตึงเครียด
คำแนะนำในการรับประทาน
ʕ·ᴥ·ʔ การรับประทานเป็นอาหารเสริม: 5-10 มิลลิกรัมของกรด pantothenic (วิตามินบี 5)
ʕ·ᴥ·ʔ ทารก 0-6 เดือน รับประทานขนาด 1.7 มิลลิกรัมต่อวัน
ʕ·ᴥ·ʔ ทารก 7-12 เดือน รับประทานขนาด 1.8 มิลลิกรัมต่อวัน
ʕ·ᴥ·ʔ เด็ก 1-3 ปี รับประทานขนาด 2 มิลลิกรัมต่อวัน
ʕ·ᴥ·ʔ เด็ก 4-8 ปี รับประทานขนาด 3 มิลลิกรัมต่อวัน
ʕ·ᴥ·ʔ เด็ก 9-13 ปี รับประทานขนาด 4 มิลลิกรัมต่อวัน
ʕ·ᴥ·ʔ ชายและหญิงอายุ 14 ปีขึ้นไป รับประทานขนาด 5 มิลลิกรัมต่อวัน
ʕ·ᴥ·ʔ หญิงตั้งครรภ์ รับประทานขนาด 6 มิลลิกรัมต่อวัน
ʕ·ᴥ·ʔ สตรีให้นมบุตร รับประทานขนาด 7 มิลลิกรัมต่อวัน
1.ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
2.ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
3.ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
4.ช่วยในกระบวนการรักษาแผล
5.ช่วยรักษาอาการช็อกหลังการผ่าตัด
6.ช่วยป้องกันการอ่อนเพลียของร่างกาย
7.ช่วยลดความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบในผู้ป่วยบางรายได้
8.ช่วยรักษาอาการเหน็บชาที่มือและเท้า
9.ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
✿ วิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic acid) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบีรวม มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.) ซึ่งร่างกายของเราสามารถสังเคราะห์วิตามินบี 5 ขึ้นเองได้ด้วยแบคทีเรียในลำไส้
✿ วิตามินบี 5 มีหน้าที่ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ต่าง ๆ การเจริญเติบโตของร่างกาย และการพัฒนาของระบบประสาทส่วนกลาง มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของต่อมหมวกไต รวมไปถึงการช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานและใช้พาบาและโคลีนของร่างกาย และยังมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงาน
✿ แหล่งที่พบวิตามินบี 5 ตามธรรมชาติ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไก่ ตับ ไต หัวใจ ธัญพืชไม่ขัดสี รำข้าว จมูกข้าวสาลี ถั่ว ผักสีเขียว กากน้ำตาลไม่บริสุทธิ์ บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น
✿ ผลเสียของการรับประทานเกินขนาด ในปัจจุบันยังไม่พบว่ามีอาการเป็นพิษต่อร่างกายหากรับประทานในปริมาณมากติดต่อกัน โดยศัตรูของวิตามินบี 5 ได้แก่ ความร้อน กระบวนการแปรรูปอาหาร แอลกอฮอล์ การบรรจุกระป๋อง คาเฟอีน ยานอนหลับ ยาในกลุ่มซัลฟา และฮอร์โมนเอสโตรเจน
✿ โรคจากการขาดวิตามินบี 5 ได้แก่ โรคไฮโปไกลซีเมีย (Hypoglycemia) หรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ แผลในลำไส้เล็ก โรคเลือด และโรคผิวหนัง
วิตามินบี 5 ช่วยอะไร วิตามินบี5 หรือกรดชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบหลักของเอนไซม์เอ ซึ่งจะคอยดักจับและทำลายหมู่ซิทิลจากสารประกอบต่างๆที่เข้าสู่ร่างกายและยังสามารถพบได้ในเนื้อเยื่อทุกชนิดอีกด้วย นอกจากนี้ก็มีหน้าที่อื่นๆ เช่น
✿ วิตามิน บี 5 ช่วยในการสังเคราะห์สาระสำคัญชนิดหนึ่ง ที่จะทำหน้าที่ในการส่งผ่านกระแสประสาทโดยเฉพาะ ซึ่งก็คือ อะซีทิลโคลีน
✿ ทำหน้าที่ในการเป็นตัวร่วมในการสร้างอะซีทิลโคเอนไซม์เอ โดยเป็นสารที่จะช่วยในการผลิตพลังงานให้กับร่างกาย ซึ่งผลิตจากไขมัน โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง
✿ ช่วยสังเคราะห์กรดไขมัน สเทอรอลและคอเลสเตอรอล รวมถึงฟอร์ไฟริน ที่มีหน้าที่สำคัญในการสร้างเฮโมโกลบินโดยเฉพาะ
✿ ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์สารที่มีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างเฮโมโกลบิน ซึ่งได้แก่ สารพอร์ไฟริน
✿ ช่วยสังเคราะห์กรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย
✿ ช่วยรักษาอาการเหน็บชาที่มือและเท้า