เอนไซม์ หรือ enzyme คือ กลุ่มของโปรตีนที่มีหน้าที่พิเศษแตกต่างจากโปรตีนทั่วไป คือ มีความสามารถในการเร่งปฏิกิริยาทางชีวเคมีที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง เพื่อใช้ในการสังเคราะห์องค์ประกอบภายในเซลล์ ระบบการย่อยอาหาร ฯลฯ
เอนไซม์ (Enzyme) เปรียบเสมือนกับสิ่งที่เป็นตัวจุดประกายของชีวิตในร่างกาย หมายความว่าถ้าหากร่างกายของเราไม่มีเอนไซม์ ร่างกายก็จะไม่สามารถย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ และในที่สุดก็ตายลง ดังนั้นเอนไซม์จึงเป็นตัวช่วยเร่งปฏิกิริยาเคมี หรือตัวคะตะลิสต์ (Catalyst) ที่จำเพาะ ซึ่งจะทำง่านร่วมกับโคเอนไซม์ (Coenzymes) โดยโคเอนไซม์ในที่นี้ก็คือพวกวิตามินและแร่ธาตุจำเป็นต่อร่างกาย และวิตามินและแร่ธาตุนั้นจะไม่สามารถกระตุ้นให้ทำงานได้หากไม่ได้ทำงานร่วมกับเอนไซม์
เนื่องจากเรามีแหล่งพลังงานจากเอนไซม์ที่จำกัด และแหล่งพลังงานนี้ก็จะสูญหายไปได้เรื่อย ๆ จากนิสัยการเลือกบริโภคอาหารของเราเอง เช่น ชอบรับประทานอาหารที่ปรุงแต่งด้วยสารเคมีต่าง ๆ หรืออาหารฟาสต์ฟู้ด การดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การรับประทานยา หรือแม้แต่อาหารที่ปรุงสุกแล้วก็จะไม่ค่อยมีเอนไซม์เหลืออยู่เลย เนื่องจากเอนไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายโดยความร้อน ก็ล้วนแต่มีส่วนในการทำลายเอนไซม์ในร่างกายของแทบทั้งสิ้น เมื่อร่างกายได้รับเอนไซม์ไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายต้องดึงเอนไซม์ของตัวเองออกมาใช้ เพื่อช่วยย่อยอาหาร ทำให้มีผลเสียที่ตามมาคือ ร่างกายเสื่อมสภาพ แก่เร็วขึ้น และทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
เอนไซม์ ช่วยเปลี่ยนอาหารคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และเส้นใยอาหารให้เป็นกรดอินทรีย์ เช่น กรดแลคติก กรดอะซิติก และกรดบิวทิริก ซึ่งมีความเป็นกรดอ่อน ๆ ทำให้เอนไซม์มีรสเปรี้ยว และช่วยทำให้การขับถ่ายเป็นไปได้อย่างสะดวก กรดอินทรีย์ชนิดบิวทีริกเสริมสร้างการสร้างดีเอ็นเอ และเพิ่มจำนวนเซลล์บุผิวในลำไส้ใหญ่ให้มีมากแข็งแรงมีอายุยืนกว่าเดิม ทำหน้าที่ต้านเชื้อโรคได้ดี ต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ดี
เอนไซม์สร้างวิตามิน บี 12 วิตามิน K และวิตามิน B หลายชนิด ช่วยบำรุงเม็ดเลือด เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาท และเซลล์ทั่วไป
ช่วยสร้างเอนไซม์แลคเตส เพื่อย่อยน้ำตาลในนม ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น ดังนั้น เด็ก ๆ ที่ยังดื่มนมสามารถดื่มน้ำพลังเอนไซม์บำบัดผสมในนมได้
สร้างสารต่อต้านเชื้อโรค สารอินทรีย์นี้เรียกว่า แบคทีริโอซิน (Bactiriocins) มีหลายชนิด ได้แก่ acidolin, acidophillin, bulgarican, lactocillin และ niacin ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโทษต่อรางกายการ เช่น เชื้อที่ทำให้เจ็บคอ เชื้อที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง เชื้อที่ทำให้เกิดโรคตามผิวหนังเป็นแผลพุพองเรื้อรัง ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ เชื้อที่ทำให้ท้องร่วง และเชื้อที่ทำให้เกิดเหม็นเน่า
ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด เหมาะสำหรับผู้มีระดับไขมันในเลือดสูง หรือความดันสูง
ช่วยในการทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจะช่วยยืดระยะเวลาการหมดประจำเดือน และบรรเทาอาการเกิดโรคกระดูกพรุนด้วย เนื่องจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
ช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการฉายรังสี และเคมีบำบัดหลังการผ่าตัดมะเร็ง ลดอาการแพ้ คลื่นไส้ ผมร่วง ทำให้รับประทานอาหารได้ดีขึ้น และพบว่าทำให้ปริมาณฮีโมโกบินสูงขึ้นด้วย
ช่วยลดการเกิดสารก่อมะเร็งบางชนิด เช่น ไนโตรซามีน
ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในสัตว์ทดลอง ทั้งในระยะเริ่มต้น และระยะส่งเสริมของโรคมะเร็ง และในทางระบาดวิทยา พบว่าในคนมีความสัมพันธ์กับการลดอัตราการเสี่ยงของมะเร็งลำไส้
คำแนะนำในการรับประทาน
รับประทานก่อนอาหาร 30 นาที // เก๊าท์,ริดสีดวง,ปวดเมื่อยบั้นเอว,เอ็นเคล็ด,ไม่กระปรี้กระเปร่า,เนื้องอก,ต่อมไทรอยด์,เบาหวาน,ความดันสูง,ตั้งครรภ์ยาก,วัยหมดประจำเดือน,สูตรล้างพิษ,ลดน้ำหนัก,ไซนัส
หลังอาหาร 30 นาที // เพิ่มน้ำหนัก,ท้องอืด,ท้องเฟ้อ,โรคกระเพาะ,โรคลำไส้
อื่นๆ
:ดูแลผิวพรรณ ผสมกับน้ำสะอาดชโลมไว้ ช่วยขจัดสารเคมีที่ตกค้าง ขจัดสิว ฝ้า ผิวจะนุ่มนวลขึ้น
: ท้องเสีย ท้องเดิน อาหารเป็นพิษ ปวดประจำเดือน ดื่ม 2 ซอง เมื่อมีอาการ
: อาการสะอึก อาการเมาสุรา ดื่ม 2 ซอง เมื่อมีอาการ
: มือเป็นผื่น ผสมน้ำแช่ วันละ 2 – 4 ครั้ง
: ฮ่องกงฟุต ผสมกับน้ำอุ่น แล้วปิดทาบริเวณแผล
: แผลกดทับ แผลเรื้อรัง แผลสด น้ำร้อนลวก ล้างแผลให้สะอาด โรยผงเอนไซม์ลงบนบาดแผล ถ้าแผลแห้งแล้วให้ผสมน้ำอุ่นทา