หน้าหลัก     ปัญหาสุขภาพ     สาระน่ารู้

ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด (Sun Block& Sun Screen)

     ในสภาวะในปัจจุบัน โลกมีความร้อนมากขึ้น รวมทั้งสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นไฟส่องสว่างจากแสงไฟที่ทำงาน หรือแสงแดดมลภาวะต่างๆ รวมไปถึงคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ที่หลายคนต้องเผชิญโดยเลี่ยงไม่ได้ กันแดด จึงจำเป็นและมีบทบาทสำคัญ ที่เป็นตัวช่วยอย่างดีในการปกป้องสุขภาพผิว และป้องกันการเกิดโรคต่างๆที่เกี่ยวกับผิวหนัง กันแดดจึงมีบทบาทสำคัญ ต่อผู้คนในยุคปัจจุบัน วันนี้เราจึงได้นำสาระความรู้ของกันแดดมาให้ทุกคนได้อ่านเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจบอกการเลือกใช้อีกด้วย


     ครีมกันแดด คือ สารที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวี (Ultraviolet Radiation: UV) โดยช่วยให้ผิวไม่ถูกแสงแดดทำลายจนไหม้หรือเกิดจุดด่างดำต่าง ๆ รวมทั้งลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วนผสมที่อยู่ในครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต ปกป้องชั้นผิวที่อยู่ลึก หรือสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตกลับออกไป ทั้งนี้ ครีมกันแดดมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โลชั่น ครีม ขี้ผึ้ง หรือสเปรย์ครีมกันแดดสามารถแบ่งประเภทได้หลายประเภท โดยการจัดครีมกันแดดจะแบ่งออกเป็นประเภทตามกลไกการป้องกันแสงแดด และประเภทตามบริเวณที่ใช้ทา ดังนี้

ประเภทตามกลไกการป้องกันแสงแดด enlightened

หากพิจารณากลไกการป้องกันแสงแดด ครีมกันแดดสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สารกันแดดแบบเคมี และสารกันแดดแบบกายภาพ ดังนี้

ประเภทตามบริเวณที่ใช้ทา enlightened


     ครีมกันแดดมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ ซึ่งอาจแบ่งประเภทตามบริเวณที่ใช้ทาครีมกันแดด โดยทั่วไปแล้ว ครีมกันแดดจะมีทั้งแบบโลชั่น ครีม เจล ขี้ผึ้ง สเปรย์ หรือผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่น ๆ ซึ่งมีประโยชน์ใช้สอยและเหมาะกับการใช้ทาเพื่อปกป้องแสงแดดตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

      แบบครีม เหมาะใช้ทาบริเวณใบหน้าและผู้ที่มีผิวแห้ง 

      แบบเจล เหมาะสำหรับทาบริเวณที่มีขน เช่น หนังศีรษะหรือหน้าอกของผู้ชาย

      แบบแท่ง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบแท่ง อาจผสมสารกันแดดร่วมด้วย ซึ่งเหมาะใช้ทาบริเวณที่อยู่รอบดวงตา

      แบบสเปรย์ สารกันแดดในรูปแบบสเปรย์อาจนำมาใช้ทากันแดดให้แก่เด็ก เนื่องจากทาได้ง่าย โดยควรทาสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวในปริมาณที่เพียงพอ และไม่ควรสูดดมหรือฉีดสเปรย์ใกล้วัตถุไวไฟหรือขณะที่สูบบุหรี่

       นอกจากนี้ ยังมีครีมกันแดดที่ผลิตขึ้นมาสำหรับเด็กหรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ รวมทั้งผสมสารป้องกันแสงไว้ในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ซึ่งควรใช้ตามวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ไม่ควรนำมาใช้เพื่อป้องกันแสงแดด

ผลเสียของการไม่ทาผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด ⚡ 

 ผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

หากโดนแสงแดดมาก ๆ โดยที่ไม่มีครีมกันแดดป้องกันไว้เลย ก็จะทำให้ผิวของเราคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเมื่อแสงแดดเข้าสู่ผิว แล้วไม่เจอครีมกันแดดป้องกัน ผิวของเราจะทำหน้าที่ปกป้องผิวตัวเอง ด้วยการผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น เลยส่งผลให้ผิวเราคล้ำขึ้นนั่นเอง และอีกหนึ่งผลเสียที่ตามมาก็คือ สีผิวจะไม่สม่ำเสมอกันด้วย

 เพิ่มริ้วรอย ทำให้แก่ก่อนวัย

แสงแดดถือเป็นอีกหนึ่งตัวการ ที่ทำให้หน้าเราแก่และมีริ้วรอย โดยมีแสง UV ที่เป็นต้นเหตุหลัก ในการทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ที่ช่วยในเรื่องความกระชับผิว ดังนั้นหากโดนแสงแดดมากๆ และไม่ได้ทาครีมกันแดดเลย ก็จะทำให้ผิวของเราหย่อนคล้อยลงได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรทาครีมกันแดด ทุกครั้งก่อนออกแดดประมาณ 15 นาที

 ผิวไหม้ 

เพราะเซลล์ผิวถูกทำลาย หากไม่ทาครีมกันแดด แล้วไปเผชิญกับแดดแรงเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ผิวไหม้แดดได้ โดยผิวบริเวณที่สัมผัสแสงแดดจะค่อยๆ เป็นรอยไหม้ แต่อย่างไรก็ตาม สามารถป้องกันได้ด้วยการทาครีมกันแดด โดยควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันแสงแดด SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และสามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี

 ฝ้า กระ ถามหา

อัลตราไวโอเลตในแสงแดด เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนส่งผลให้ผิวคล้ำขึ้น และเกิดฝ้ากระได้ การโดนแดดสะสมเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีการป้องกัน อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

 มะเร็งผิวหนัง

งานวิจัยหนึ่งที่ออสเตรเลียในปี 2011 ได้บอกไว้ว่า คนอายุ 25-75 ปี ที่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ อย่างต่อเนื่องมากว่า10 ปี จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง ได้น้อยกว่าคนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดเลย

วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด 

การเลือกซื้อครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันแสงแดดอย่างถูกต้อง ทำได้ ดังนี้ 

 ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า PA ให้เหมาะกับกิจวัตรประจำวันที่อาจส่งผลต่อคุณภาพที่ดีของแต่ละคน

           ค่า PA คือ ค่าระดับความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ (UVA) ระบุค่าความสามารถเป็นจำนวนเครื่องหมายบวก (+) PA + คือ ความสามารถในการปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ได้มากกว่าผิวปกติ 2-4 เท่า PA ++ คือ ความสามารถในการปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ได้มากกว่าผิวปกติ 4-8 เท่า 

         PA+ สาวออฟฟิศธรรมดา ใช้ค่าเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

         PA++ สำหรับคนที่ต้องออกไปทำงานกลางแจ้ง หรือออกแดดมากกว่าปกติ

         PA+++ คนที่ต้องไปเที่ยวทะเล โดนแสงและแดดทั้งวันนานๆ เหมาะกับค่า PA สูงๆ 

เลือกครีมกันแดดที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม (Broad-Spectrum) ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบีเนื่องจากครีมกันแดดทุกตัวจะช่วยป้องกันรังสียูวีบี ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้และเป็นมะเร็งผิวหนัง ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดอื่น ๆ ที่ป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีจะได้รับการระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์ว่า Broad-Spectrum ส่วนครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ไม่ได้รับการระบุดังกล่าวจะป้องกันผิวไหม้ แต่ไม่ครอบคลุมการป้องกันมะเร็งผิวหนังและผิวแก่ก่อนวัย

ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่านั้น โดยค่า SPFจะช่วยบอกระดับการป้องกันผิวจากรังสียูวีบี ครีมกันแดดที่มีค่าดังกล่าวสูงก็จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้มาก โดยครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 จะกรองรังสียูวีบีได้ร้อยละ 93 ครีมกันแดดที่มีค่า 30 จะกรองได้ร้อยละ 97 และครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 กรองได้ร้อยละ 98 ส่วนครีมกันแดดที่มีค่า SPFต่ำกว่า 15 สามารถป้องกันผิวไหม้ได้ แต่ไม่ป้องกันมะเร็งผิวหนังหรือผิวแก่กว่าวัย

เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำได้ (Water Resistant) โดยครีมกันแดดชนิดนี้จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดระหว่างที่ว่ายน้ำหรือเหงื่อออกได้นานประมาณ 40-80 นาที ผู้ใช้ควรทาครีมกันแดดซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น

เด็ก และผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหรือเกิดอาการแพ้อื่น ๆ ควรเลือกครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ผสมไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) หรือซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองได้น้อย เลี่ยงใช้ครีมกันแดดที่ผสมกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก (Para-Aminobenzoic Acid: PABA) หรือกรดพาบา หรือผสมเบนโซฟีโนน (Benzephenones) เช่น ไดออกซิเบนโซน (Dioxybenzone) ออกซิเบนโซน (Oxybenzone) หรือซอลลิเบนโซน(Sulisobenzone) รวมทั้งครีมกันแดดที่ผสมแอลกอฮอล์ น้ำหอม และวัตถุกันเสีย


ข้อเสียและข้อควรระวังในการใช้กันแดด sad

การใช้ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

  1. 1. ข้อดีของครีมกันแดด 

   ● ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบี ผู้ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจะได้รับประโยชน์ดังกล่าว ซึ่งช่วย:

   ● ป้องกันความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่าย

   ● ปกป้องผิวไม่ให้ถูกแสงแดดเผาหรือทำลาย

   ● ช่วยไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย ส่งผลให้ไม่เกิดจุดด่างดำหรือฝ้าบนใบหน้าและผิวหนังส่วนอื่น

  1. 2. ข้อเสียของครีมกันแดด

   ● ผู้ใช้ครีมกันแดดอาจได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ครีม ดังนี้

   ● ลดการผลิตวิตามินดีของผิวหนัง ผู้ใช้ครีมกันแดดอาจรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีหรือวิตามินเสริม เพื่อเสริมสร้างวิตามินดีให้ร่างกายอย่างเพียงพอ

   ● มีคราบครีมกันแดดติดตามเสื้อผ้า เนื่องจากครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์กันแดดบางตัวผสมกรดอะมิโนเบนโซอิก หรือกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก

   ● ผิวแพ้ง่ายขึ้น เกิดการระคายเคือง หรือมีรอยแดงที่ผิว เนื่องจากครีมกันแดดมีส่วนผสมบางตัวที่ทำให้ผิวแพ้สารต่าง ๆได้ง่าย ควรล้างออกและหยุดใช้ รวมทั้งปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อเลือกใช้ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดตัวอื่นแทน

     ทั้งนี้ทั้งนั้น กันแดดทุกตัวในท้องตลาดที่เขียนกันข้างผลิตภัณฑ์ ไม่สามารถปกป้องดดอย่างมีประสิทธิภาพได้ 100% ทุกตัวตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ อาจจะด้วยคุณภาพของตัวสินค้า มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ รวมถึงวิธีการผลิตในท้องตลาด ก่อนจะเลือกใช้นั้นและควรเลือกสินค้าที่มีมาตรฐานที่ดีที่สุดต่อการดูแลผิวพรรณ ซึ่งจะส่งผลและประสิทธิภาพผิวอีกด้วย

BACK